อีกแล้ว!! ขับรถพุ่งใส่ฝูงชนในฝรั่งเศส บาดเจ็บนับสิบก่อนแทงตัวเองหลายแผล

เอพี/เอเอฟพี - ชายคนหนึ่งขับรถตู้พุ่งใส่ตลาดคริสต์มาสในเมืองทางตะวันตกของฝรั่งเศสเมื่อวันจันทร์ (22 ธ.ค.) ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บนับสิบคน ก่อนลงมือแทงตัวเองหลายแผล ในเหตุการณ์ขับรถชนคนเดินถนนที่เมืองน้ำหอม 2 คดีติดๆ ในเวลาห่างกันแค่ไม่กี่วัน

มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 11 รายรวมถึงคนขับ ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบริเวณตลาดที่พลุกพล่านไปด้วยผู้คนที่ออกมาจับจ่ายใช้สอยก่อนวันคริสต์มาส ในเมืองนองต์ ตอนประมาณ 19.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น.(ตรงกับเมืองไทย 01.00 น. ของวันอังคาร) ขณะที่โฆษกกระทรวงมหาดไทยฝรั่งเศสให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นแห่งหนึ่งว่าคนขับตั้งใจขับรถพุ่งใส่ฝูงชน

โฆษกกระทรวงมหาดไทยฝรั่งเศส เผยต่อว่า ในจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บข้างต้นมีอยู่ 5 รายที่อาการสาหัส และผู้ก่อเหตุก็อยู่ในนั้นด้วย

แหล่งข่าวเปิดเผยกับเอเอฟพีว่า หลังจากขับรถพุ่งเข้าใส่ฝูงชน คนขับซึ่งมีอายุราว 40 ปีเศษๆ ก็ลงมือแทงตัวเองอย่างน้อย 9 ครั้ง เบื้องต้นแรงจูงใจในการก่อเหตุยังไม่ชัดเจน แต่ก็ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับพวกหัวรุนแรงทางศาสนา “ณ ที่เป็นอยู่ในตอนนี้ เรายังไม่ชี้ไปที่ข้อเรียกร้องทางศาสนา”

เหตุการณ์ในเมืองนองต์เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันตามหลังเหตุโจมตี 2 ครั้งไล่เลี่ยกันเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ผ่านมา ได้แก่ กรณีคนขับรถพุ่งชนคนเดินถนนในเมืองดิฌง จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 13 ราย และคดีชายอีกคนถูกวิสามัญฆาตกรรม หลังถือมีดไล่แทงตำรวจในเมือง ฌู-เลส์-ตูร์ ทางภาคกลางของประเทศ อย่างไรก็ตามทั้งสองคดีไม่มีผู้เสียชีวิต

ก่อนหน้านี้ ในวันจันทร์ (22 ธ.ค.) อัยการเปิดเผยว่าชายชาวฝรั่งเศสที่ขับรถพุ่งชนคนเดินถนนในดิฌง มีประวัติป่วยทางจิตมานานและไม่เกี่ยวข้องกับพวกก่อการร้าย

อัยการท้องถิ่นหญิงรายนี้เล่าว่าผู้ต้องสงสัยอ้างกับตำรวจว่าเขาขับรถเข้าชนฝูงชนเพราะว่าอารมณ์แห่งความเห็นใจเด็กๆชาวเชเชนระเบิดออกมาอย่างกะทันหัน “เขาไม่ได้มีแรงจูงใจทางศาสนา แต่เขาบอกว่ามันเป็นปฏิกิริยาตอบสนองในทางการเมือง” อัยการระบุ พร้อมเผยว่า จากการตรวจค้นที่ไม่พบอะไรในบ้านของครอบครัวผู้ต้องสงสัยรายนี้ บ่งชี้ว่าเขาไม่มีความเกี่ยวข้องกับพวกรัฐอิสลามหรือกลุ่มหัวรุนแรงอื่นๆ

เหตุการณ์ในเมืองดิฌง เกิดขึ้นเพียง 1 วัน หลังจากชายอีกคนถูกวิสามัญฆาตกรรม หลังถือมีดไล่แทงตำรวจในเมือง ฌู-เลส์-ตูร์ ทางภาคกลางของประเทศ และด้วยทั้ง 2 คนตะโกนคำว่า “อัลลอฮุอักบัร (อัลเลาะห์ทรงยิ่งใหญ่)” วลีอิสลามิกที่ก่อนหน้านี้พวกหัวรุนแรงมักใช้หลังก่อเหตุรุนแรง จึงกระพือข่าวลือว่าเหตุโจมตีทั้งสองเหตุการณ์มีแจงจูงใจจากพวกอิสลามิคหัวรุนแรง

อย่างไรก็ตาม เหล่าผู้นำของฝรั่งเศสรุดออกมาปฏิเสธทันควันต่อความเกี่ยวข้องกันระหว่างสองหตุการณ์ โดยประธานาธิบดี ฟรังซัวส์ ออลลองด์ เรียกร้องประชาชนแดนน้ำหอมอย่าตื่นตระหนก ส่วนโฆษกรัฐบาลก็เตือนถึงการนำเอาทั้งสองเรื่องมาขยำรวมกัน