เอเอฟพี – ชะตาของเด็กชายชาวจีนผู้ติดเชื้อไวรัสเอชไอวี ซึ่งถูกชาวบ้าน 200 คนลงชื่อร้องเรียนกดดันให้ออกไปจากบ้านของเขา ได้เป็นชนวนให้ในวันนี้ (18) ในโลกออนไลน์เกิดการพิจารณาจิตวิญญาณของคนในประเทศนี้กันอย่างเข้มข้น
กรณีดังกล่าวตอกย้ำถึงเรื่องมลทินจากการติดเชื้อไวรัสเอชไอวีในแดนมังกร ประเทศที่ผู้ป่วยจำนวนมากมายเผชิญกับการเลือกปฏิบัติอย่างแพร่หลาย
โกลบัล ไทมส์ รายงานว่า ตาของเด็กชายรายนี้ ซึ่งเป็นผู้ปกครองของเขา คือหนึ่งในชาวบ้านในมณฑลเสฉวนทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ที่ลงชื่อในข้อตกลงขับไล่เด็กชายวัย 8 ปีรายนี้ออกไปเพื่อ “ปกป้องสุขภาพของชาวบ้าน”
หนังสือพิมพ์เจ้านี้ ซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพรรครัฐบาลคอมมิวนิสต์ รายงานว่า เด็กชายติดเชื้อจากแม่ของเขา และได้รับการวินิจฉัยโรคเพื่อเข้ารับการรักษาขนาดย่อมหลังได้รับบาดเจ็บเมื่อปี 2011
รายงานก่อนหน้านี้ ระบุว่า เด็กชายคนนี้ ซึ่งสื่อจีนเรียกด้วยนามแฝงว่า คุนคุน ถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าเรียนในโรงเรียนท้องถิ่นและชาวบ้านจะหลีกเลี่ยงไม่สัมผัสกับเขา
“ไม่มีใครเล่น (กับผม) ผมเล่นคนเดียว” คุนคุน กล่าว อ้างจากรายงานเมื่อวานนี้ (17) ของเว็บไซต์ของหนังสือพิมพ์ พีเพิล เดลีย์ กระบอกเสียงอย่างเป็นทางการของพรรคคอมมิวนิสต์ โดยเว็บไซต์นี้ ระบุด้วยว่า ในคำร้องเรียนดังกล่าวเขียนถึง คุนคุน ว่าเป็นเหมือนกับ “ระเบิดเวลา”
“พวกชาวบ้านเห็นใจเขา เขาไร้เดียงสาและเป็นแค่เด็กตัวเล็กๆ แต่เชื้อเอชไอวีและโรคเอดส์ในตัวเขาน่ากลัวเกินไปสำหรับพวกเรา” หวัง อี้ชู หัวหน้าสมาคมของหมู่บ้านชูฟางหยา บอกกับเว็บไซต์
โกลบัล ไทมส์ รายงานว่า แม่ของเด็กชายคนนี้ทิ้งครอบครัวไปในปี 2006 ขณะเดียวกันกับที่พ่อของเขาก็ “ขาดการติดต่อ” หลังจากที่อาการของ คุนคุน ได้รับการวินิจฉัย
กรณีดังกล่าวก่อให้เกิดการถกเถียงกันอย่างเผ็ดร้อนบน ซีนา เว่ยโป๋ สื่อสังคมออนไลน์ของจีนที่คล้ายกับทวิตเตอร์ ซึ่งกรณีนี้ได้กลายเป็นหัวข้อที่มีการถกเถียงกันมากที่สุดในช่วงเช้าวันนี้ (18) โดยมีหลายคนถามว่า คนพวกนี้สามารถใจไม้ไส้ระกำต่อเด็กชายคนนี้ได้อย่างไร ขณะที่ผู้โพสต์คนหนึ่ง เขียนว่า “ทำไมเขาถึงถูกทิ้งขว้างอย่างเลือดเย็น มันไม่ยุติธรรมกับเขาเลย”
ผู้โพสต์อีกคนหนึ่ง ระบุว่า “นี่เป็นเพราะประชากรจีนสามารถเข้าถึงการศึกษาได้ไม่เพียงพอ ทำให้เกิดความไม่รู้และตื่นกลัว”
คณะกรรมการสาธารณสุขและการวางแผนครอบครัวแห่งชาติจีน เปิดเผยเมื่อช่วงต้นเดือนนี้ว่า ภายในสิ้นเอนตุลาคมที่ผ่านมามีชาวจีนได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์แล้วทั้งสิ้น 497,000 รายนับตั้งแต่กรณีแรกในปี 1985 เป็นต้นมา ทั้งนี้ จีนมีประชากร 1.36 พันล้านคน
การเลือกปฏิบัติกับผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ยังคงเป็นปัญหาในโรงเรียน , โรงพยาบาล , ที่ทำงาน และสถานประกอบการอื่นๆ ทั่วประเทศ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ผู้เชี่ยวชาญ ระบุว่า เป็นอุปสรรคต่อความพยายามที่จะวินิจฉัยและรักษาเชื้อไวรัสชนิดนี้