เอเจนซีส์ - ปากีสถานไว้อาลัยเหยื่อ 148 คน แทบทั้งหมดเป็นเด็กนักเรียน ที่ถูกกลุ่มตอลิบานบุกสังหารหมู่ในโรงเรียนแห่งหนึ่งของกองทัพที่เมืองเปชาวาร์ ผู้นำทั่วโลก ไม่เว้นแม้แต่อินเดีย คู่รักคู่แค้น ร่วมประณามผู้ก่อการร้ายที่ก่อเหตุ ขณะที่สื่อท้องถิ่นกดดันรัฐบาลและกองทัพลงมือจัดการปัญหานี้อย่างจริงจัง ไม่ใช่เพียงให้คำมั่นทุกครั้งที่เกิดเหตุรุนแรง
รัฐบาลปากีสถานประกาศรำลึกไว้อาลัยทั่วประเทศเป็นเวลา 3 วันตั้งแต่วันพุธ (17 ธ.ค.) ให้แก่เหยื่อเคราะห์ร้ายจากเหตุการณ์มือปืนตอลิบาน 7 คนติดอาวุธเพียบรวมทั้งมีระเบิดคาดเอว ปีนกำแพงด้านหลังเข้าไปในโรงเรียนซึ่งอยู่ในความดูแลของกองทัพปากีสถาน ในเมืองเปชาวาร์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ เมื่อช่วงเช้าวันอังคาร (16) และกราดยิงนักเรียน รวมทั้งจับครูผู้หญิงบางคนเผาทั้งเป็น นับเป็นเหตุการณ์โจมตีแบบก่อการร้ายครั้งที่สร้างความสูญเสียร้ายแรงที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในปากีสถาน และทำให้ประชาชนยิ่งหวาดผวากับการโจมตีอย่างไม่มีวันจบสิ้นของผู้ก่อการร้าย
ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า มือปืนตอลิบานนั่งรถตู้สีขาวไปจอดที่บริเวณหลังโรงเรียน และจุดไฟเผารถรวมทั้งกราดยิงเพื่อไล่ผู้คนที่อยู่บริเวณนั้นก่อนใช้บันไดปีนเข้าไปในโรงเรียน
พล.อ.อาซิม บัจวา โฆษกกองทัพบกปากีสถานแถลงว่า ระหว่างเกิดเหตุมีนักเรียนราว 500 คนอยู่ในโรงเรียน และเสริมว่ามือปืนที่พกกระสุนและเสบียงสำหรับปฏิบัติการนานหลายวันเหล่านี้ มีเป้าหมายเดียวคือสังหารผู้บริสุทธิ์
หน่วยคอมมานโดของกองทัพเข้าปะทะต่อสู้กับมือปืนตอลิบานตลอดทั้งวันกระทั่งสามารถเคลียร์พื้นที่ได้ และสังหารผู้ก่อเหตุทั้งหมด
ในคืนวันอังคาร ทางการแถลงว่ามีเหยื่อเสียชีวิตจากเหตุร้ายคราวนี้ 141 คน ต่อมาได้พบร่างอาจารย์ใหญ่ ตอฮิรา กอซี ซึ่งเป็นสตรีในซากอาคาร แล้วยังมีผู้ที่บาดเจ็บหนักเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก โดยเมื่อถึงตอนค่ำวันพุธ ทางการปากีสถานระบุว่ายอดผู้ตายกลายเป็น 148 คน เป็นนักเรียน 132 คน นอกจากนี้ยังมีนักเรียนอีก 121 คน และเจ้าหน้าที่โรงเรียน 3 คนได้รับบาดเจ็บ
ผู้เสียชีวิตหลายรายได้รับการประกอบพิธีศพไปแล้วตั้งแต่ช่วงกลางคืน แต่ส่วนใหญ่ได้รับการฝังศพในวันพุธ
ตั้งแต่วันอังคาร กลุ่ม เตห์รีค-อี-ตอลิบาน ปากีสถาน (ทีพีพี) ได้ออกมาประกาศความรับผิดชอบ โดยบอกว่า เป็นการแก้แค้นที่กองทัพปากีสถานบุกโจมตีที่มั่นของพวกตนในเขตนอร์ท วาซิริสถาน บริเวณชายแดนติดกับอัฟกานิสถาน ตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยตามการรวบรวมตัวเลขที่แถลงโดยทางการ การปราบปรามในพื้นที่ชาวชนเผ่าดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่ติดๆ กับแคว้นไคเบอร์ปัคตุนควา ที่มีเปชาวาร์เป็นเมืองเอกของแคว้น ได้มีผู้ถูกสังหารไปกว่าล้มตายกว่า 1,600 คน
ด้านนักวิเคราะห์ชี้ว่า การบุกโจมตีโรงเรียนครั้งนี้บ่งชี้ว่า กลุ่มก่อการร้ายยังคงสามารถก่อการโจมตีอย่างโหดเหี้ยม แม้ถูกปราบปรามอย่างหนักและมีขนาดเล็กลงก็ตาม
เหตุการณ์นี้เรียกเสียงประณามจากทั่วโลก ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐฯ ระบุว่า นี่เป็นอีกครั้งที่ผู้ก่อการร้ายแสดงให้เห็นถึงความชั่วช้าสามานย์
ที่อินเดีย ซึ่งกล่าวหาปากีสถานมาตลอดว่า ให้การสนับสนุนพวกผู้ก่อการร้ายต่อต้านอินเดียนั้น นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ขอให้โรงเรียนทั่วประเทศยืนสงบไว้อาลัยให้เหยื่อในเปชาวาร์ 2 นาที พร้อมประณามการโจมตีดังกล่าวว่า เป็นการกระทำที่โหดร้ายไร้เหตุผลจนไม่อาจพรรณาได้
แม้แต่กลุ่มตอลิบานในอัฟกานิสถาน ซึ่งมีความผูกพันอย่างหลวมๆ กับกลุ่มทีพีพี ยังออกแถลงประณามว่า การสังหารหมู่ครั้งนี้ไม่ใช่แนวทางของอิสลาม
ขณะเดียวกัน แม้คุ้นเคยดีกับข่าวการโจมตีของกลุ่มนักรบต่อกองกำลังความมั่นคงแทบทุกวัน แต่การสังหารเด็กนักเรียนผู้บริสุทธิ์กว่าร้อยคนครั้งนี้ ทำให้ชาวปากีสถานตื่นตระหนก และเริ่มมีเสียงเรียกร้องมากขึ้นให้รัฐบาลจัดการขั้นเด็ดขาดกับกลุ่มก่อการร้าย
นายกรัฐมนตรีนาวาซ ชารีฟ ที่เดินทางไปยังเปชาวาร์ทันทีที่เกิดเหตุ ประกาศเพิ่มมาตรการปราบปรามผู้ก่อการร้าย นอกเหนือจากปฏิบัติการโจมตีด้วยโดรนของอเมริกา
ทั้งนี้ ชารีฟมีกำหนดประชุมกับพรรคการเมืองต่างๆ ในเปชาวาร์ เพื่อหารือมาตรการรับมือโศกนาฏกรรมครั้งนี้
รัฐบาลและกองทัพปากีสถานยืนยันว่า จะดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับกลุ่มก่อการร้ายที่สังหารประชาชนไปแล้วหลายพันชีวิตนับจากปี 2007
ทว่า สื่อท้องถิ่นตั้งข้อสังเกตว่า เมื่อผู้ก่อการร้ายก่อเหตุ ทางการมักออกมาประกาศขึงขังแบบนี้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงคือ การโจมตีที่รุนแรงยิ่งขึ้น
ดอว์น หนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษชั้นนำของปากีสถาน วิจารณ์ว่า ปฏิบัติการของกองทัพไม่มีอะไรมากไปกว่าการยิงต่อสู้กับผู้ก่อการร้าย โดยมิได้มีความพยายามขุดรากถอนโคนอุดมการณ์การก่อการร้าย
ดอว์นยังรายงานโดยอ้างแหล่งข่าววงในว่า มือปืนที่ก่อเหตุเมื่อวันอังคารได้รับคำสั่งโดยตรงจากกลุ่มผู้ดำเนินการในอัฟกานิสถาน และอูมาร์ นาเรย์ ผู้บัญชาการตอลิบาน เป็นผู้วางแผนการโจมตีครั้งนี้
ทั้งนี้ กลุ่มทีพีพี เป็นกลุ่มก่อความไม่สงบซึ่งสู้รบเพื่อให้มีรัฐอิสลามขึ้นในปากีสถาน พวกเขาซ่องสุมกำลังอยู่ในเขตเทือกเขาที่เข้าถึงยากบริเวณตะเข็บชายแดนปากีสถาน-อัฟกานิสถาน และเป็นพันธมิตรหลวมๆ ร่วมต่อสู้กับ กลุ่มตอลิบาน อัฟกานิสถาน รวมถึงอัล-กออิดะห์ และนักรบต่างชาติอื่นๆ
ปากีสถานนั้นกล่าวหามานานแล้วว่า อัฟกานิสถานไม่ดำเนินการจริงจังในการกวาดล้างแหล่งซ่องสุมเหล่านี้ ขณะที่คาบูลก็กล่าวหาอิสลามาบัดเช่นกันว่า ปล่อยให้นักรบกลุ่มต่างๆ เช่น ตอลิบาน อัฟกานิสถาน และ กลุ่มฮักกอนี เคลื่อนไหวอย่างเสรีในปากีสถาน และข้ามเข้าไปก่อการโจมตีในอัฟกานิสถาน