เอเอฟพี - ทีมกู้ภัยอินโดนีเซียยังเดินหน้าใช้พลั่ว และมือเปล่าระดมขุดกองดินเป็นวันที่ 3 เมื่อวันจันทร์ (15 ธ.ค.) ในควาพยายามค้นหาชาวบ้านอีกหลายสิบชีวิตที่ยังสูญหาย หลังเกิดดินถล่มทับหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งขึ้นเป็น 56 ศพ
จนถึงตอนนี้ยังคงมีประชาชนสูญหาย 52 คน หลังฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก กัดเซาะจนเกิดดินถล่มทับบ้านหลายหลังในหมุ่บ้านเจมบลุง บนเกาะชวา ตั้งแต่วันศุกร์ (12 ธ.ค.) ที่แล้ว อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยอมรับว่าโอกาสจะพบผู้รอดชีวิตเพิ่มเติมมีไม่มากนัก
หน่วยกู้ภัยมากกว่า 1,000 คน ในนั้นรวมถึงตำรวจและทหาร ขุดคุ้ยฝ่าโคลนสีแดงกองมหึมาและเศษซากต่างๆ ที่ถาโถมเข้าทับหมู่บ้าน ซึ่งตั้งอยู่ในแถบหุบเขาที่โอบล้อมไปด้วยเนินเขา ด้วยผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่าได้ยินเสียงดังสนั่นหวั่นไหวราวกับฟ้าผ่า
อากุส ฮาร์โยโน หัวหน้าหน่วยค้นหาและช่วยชีวิตท้องถิ่นกล่าวกับเอเอฟพีว่า “เราได้แต่หวัง และเฝ้าภาวนาว่า จะสามารถช่วยชีวิตคนบางส่วนที่สูญหายไปได้ แต่ความหวังนั้นก็เลือนรางเหลือเกิน”
ส่วน ซูโตโป ปูร์โว นูร์โกรโฮ โฆษกสำนักงานจัดการภัยพิบัติแห่งชาติอินโดนีเซีย ระบุในช่วงค่ำวันจันทร์ (15 ธ.ค.) ว่าในวันจันทร์สามารถเก็บกู้ร่างไร้วิญญาณได้ทั้งหมด 17 ศพ ในนั้นรวมถึงเด็ก 4 ราย ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 56 คน
รถแทรกเตอร์ และรถขุดดิน ยังคงพยายามเก็บกวาดกองต้นไม้ที่ล้มระเนระนาด ตลอดจนกองดินซึ่งปิดกั้นถนนสายหลักที่มุ่งหน้าไปสู่หมู่บ้านแห่งนี้ ด้วยความหวังที่จะเร่งช่วยชีวิตผู้สูญหาย ขณะเดียวกัน ก็มีรายงานว่ามีชาวบ้านหลายคนได้รับบาดเจ็บสาหัส และอีกนับร้อยต้องอพยพออกนอกพื้นที่
ประธานาธิบดี โจโค วิโดโด ของอินโดนีเนีย ลงพื้นที่ประสบภัยเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และเรียกร้องเจ้าหน้าที่เร่งมือให้ความช่วยเหลือ อย่างไรก็ตาม ความพยายามต้องประสบอุปสรรคสำคัญจากภาวะฝนที่ตกลงมาอย่างหนักและไม่หยุดหย่อน
ดินถล่มครั้งนี้เกิดขึ้นจากฝนหนัก และน้ำท่วม ซึ่งเป็นเหตุการณ์ปกติในช่วงฤดูฝนที่อินโดนีเซีย ซึ่งตั้งอยู่ในเขตร้อน โดยสำนักงานจัดการภัยพิบัติแห่งชาติ ประมาณการว่า มีประชากรแดนอิเหนามากถึงครึ่งหนึ่ง จากทั้งสิ้น 250 ล้านคนอาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงเกิดดินถล่ม
ทั้งนี้ หมู่เกาะอินโดนีเซียอันกว้างใหญ่ไพศาล มักเผชิญกับภัยธรรมชาติเป็นประจำ และเกิดแผ่นดินไหว ตลอดจนภูเขาไฟปะทุอยู่บ่อยครั้ง
