เอเอฟพี - ตำรวจออสเตรเลียแถลงล่าสุด มีตัวประกัน 5 รายหลบออกมาได้สำเร็จจากคาเฟช็อกโกแลตใจกลางนครซิดนีย์ที่ถูกมือปืนที่ใช้ธงสีดำและภาษาอาหรับเป็นสัญลักษณ์เข้ายึด และยังไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
เอเอฟพีรายงานด่วนว่า มีตัวประกัน 3 รายใช้ "ประตูด้านข้าง" หลบหนีออกมาได้ในเหตุการณ์คนร้ายเข้ายึดคาเฟช็อกโกแลต "ลินดต์" ที่คราคร่ำไปด้วยลูกค้าร่วม 50 คนที่ต้องการจับจ่ายเลือกของขวัญ ท่ามกลางวงล้อมหนาแน่นของตำรวจออสเตรเลีย
“มีตัวประกัน 3 คนสามารถหลบออกมาได้จากที่เกิดเหตุในมาร์ตินเพลส” ตำรวจนิวเซาท์เวลส์แถลง และกล่าวเพิ่มเติมว่า “ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ต้องการให้แน่ใจว่า พวกเขาทุกคนปลอดภัย”
“และหลังจากนั้นทางเราจะขอข้อมูลจากคนทั้งหมดเพื่อประเมินสถานการณ์ และในขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลว่ามีใครได้รับอันตรายในเหตุการณ์ล่าสุดนี้”
ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีซึ่งอยู่บริเวณจุดเกิดเหตุรายงานว่า ต่อมาตัวประกันอีก 2 คนสามารถวิ่งหนีตามออกมาได้
ในเบื้องต้นตำรวจออสเตรเลียยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่ามีตัวประกันอยู่มากเท่าใดที่ยังหลงเหลืออยู่ แต่เชื่อว่าน่าจะมีตัวประกันอีกไม่เกิน 30 คนที่ยังอยู่ในมือคนร้าย แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านเจรจากำลังทำงานอย่างหนักอยู่ในขณะนี้
ออสเตรเลียอยู่ในภาวะเฝ้าระวังสูงสุด หลังจากที่รัฐบาลประกาศเตือนว่ามีพลเมืองกลุ่มหนึ่งที่เดินทางไปร่วมต่อสู้กับพวกนักรบญิฮาดในตะวันออกกลางและซีเรีย และอาจจะเดินทางกลับมาก่อเหตุโจมตีในบ้านเกิด
มาร์ตินเพลส เป็นศูนย์กลางธุรกิจและการเงินของนครซิดนีย์ และเป็นที่ตั้งอาคารสำคัญหลายแห่ง เช่น สำนักงานของ ไมค์ แบร์ด มุขมนตรีแห่งรัฐนิวเซาท์เวลส์, ธนาคารกลางออสเตรเลีย (Reserve Bank of Australia), ธนาคารเวสต์แพ็ก และธนาคารคอมมอนเวลธ์
เหตุระทึกนี้เกิดขึ้นไม่กี่นาที ก่อนที่ตำรวจออสเตรเลียจะประกาศจับกุมชายวัย 25 ปี ในนครซิดนีย์ด้วยข้อหาก่อการร้าย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการสอบสวนเพื่อสกัดกั้นแผนของพวกอิสลามิสต์ที่หมายก่อเหตุโจมตีบนแผ่นดินจิงโจ้
ทั้งนี้ ยังไม่มีการยืนยันชัดเจนว่า เหตุการณ์ทั้งหมดเกี่ยวเนื่องกันหรือไม่
ปัจจุบันมีพลเมืองออสเตรเลียมากกว่า 70 คนร่วมต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์ในอิรักและซีเรีย และได้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 20 คน สร้างความหวาดหวั่นแก่รัฐบาลแคนเบอร์ราว่าคนหนุ่มสาวเหล่านี้กำลังถูกปลูกฝังแนวคิดอิสลามแบบสุดโต่ง และอาจกลับมาก่อเหตุโจมตีในออสเตรเลียซึ่งเป็นบ้านเกิดเมืองนอน