เอเอฟพี - เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงโจมตีสถานทูตอิสราเอลในกรุงเอเธนส์เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ทำให้ตัวอาคารสถานทูตเต็มไปด้วยร่องรอยของกระสุน แต่โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ด้านรัฐบาลกรีซออกมาประณามในวันนี้ (12 ธ.ค.) ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นการก่อการร้ายที่มุ่งทำลายประชาธิปไตย
เหตุการณ์โจมตีเกิดขึ้นเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ตอนเวลาประมาณ 3.20 น. (8.20 น. ช่วงเช้าวันศุกร์ตามเวลาประเทศไทย)
มือปืนผู้ก่อเหตุได้นั่งซ้อนท้ายอยู่บนรถมอเตอร์ไซค์ พร้อมกราดยิงเข้าใส่สถานทูตอิสราเอลไม่ต่ำกว่า 54 นัด ด้วยปืนไรเฟิลคาลาชนิคอฟ (ปืนเอเค หรือที่คนไทยคุ้นหูในชื่อ ปืนอาก้า) ขณะที่ขับผ่านบริเวณสถานทูตซึ่งตั้งอยู่ตรงมุมถนน ในแถบชานเมืองทางตอนเหนือของเมืองหลวงกรีซ
มีอีก 2 คนที่อยู่บนรถมอเตอร์ไซค์อีกคัน ตกเป็นผู้ต้องสงสัยด้วยเช่นกันว่าอาจมีส่วนในการโจมตีครั้งนี้
วาสซิลลิส คิคิเลียส รัฐมนตรีความสงบเรียบร้อยของประชาชน ได้ไปดูสถานที่เกิดเหตุพร้อมกับระบุว่า ไม่มีใครจะสร้างผลกระทบให้เกิดขึ้นกับความสัมพันธ์ระหว่างกรีซกับอิสราเอลได้
ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองชาติเริ่มที่จะอบอุ่นแน่นแฟ้นมากขึ้น หลังจากที่ช่วงหลังๆ อิสราเอลเริ่มจะมีความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดกับตุรกี
โซเฟีย โวลเทปซี โฆษกรัฐบาลกรีซ ระบุว่า ทุกการก่อเหตุโจมตีในลักษณะก่อการร้ายที่มุ่งเป้าทำลายประชาธิปไตยและประเทศนี้ รัฐบาลจะจัดการกับกลุ่มก่อการร้ายเหล่านี้อย่างแน่นอน
ตำรวจต่อต้านก่อการร้าย บอกว่า มีสัญญาณบ่งชี้ว่านี่น่าจะเป็นฝีมือของกลุ่ม "พีเพิล ไฟเตอร์" ที่เป็นพวกซ้ายจัด และเคยถูกกล่าวโทษสำหรับการโจมตี 3 ครั้ง โดยมีครั้งหนึ่งที่เป้าหมายการโจมตีเป็นสถานทูตเยอรมัน กับอีกครั้งที่เป้าหมายเป็นสำนักงานของพรรค "นิว เดโมเครซี" ที่กำลังปกครองประเทศ
ที่ผ่านมา นโยบายของอิสราเอลที่ใช้ในเวสต์แบงก์และกาซา ถูกประณามอย่างกว้างขวางในกรีซ ซึ่งเต็มไปด้วยผู้คนที่สนับสนุนชาวปาเลสไตน์ นอกจากนี้บรรดาสถานทูตและรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ด้านการทูตในกรีซ ก็ตกเป็นเป้าการโจมตีของพวกกลุ่มซ้ายจัดมาแล้วหลายครั้ง ในช่วงปีหลังๆ
บ้านพักของเอกอัครราชทูตเยอรมันในกรุงเอเธนส์ ถูกโจมตีมาแล้ว 2 ครั้ง โดยคนร้ายได้โจมตีด้วยปืนไรเฟิลในปี 2013 และโจมตีด้วยจรวดในปี 1999 แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีเหล่านั้น
นอกจากนี้ในปี 2007 ยังมีการโจมตีด้วยจรวดเข้าใส่สถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงเอเธนส์ แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ