เอเอฟพี – องค์การนิรโทษกรรมสากล (เอไอ) กล่าวหาปฏิบัติการโจมตีฉนวนกาซาของกองทัพอิสราเอลเมื่อช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมาว่าเข้าข่าย “อาชญากรรมสงคราม” และจะต้องถูกตรวจสอบ
รายงานของเอไอซึ่งเผยแพร่วันนี้(9) ระบุว่า การที่อิสราเอลโจมตีอาคาร 4 หลังในกาซาจนพังพินาศในช่วง 4 วันสุดท้ายของ “ปฏิบัติการปกป้องเขตแดน” (Operation protective Edge) ที่ยืดเยื้อถึง 50 วัน เข้าข่ายละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ
“หลักฐานทุกอย่างที่เรามีบ่งชี้ว่า การโจมตีอย่างหนักหน่วงนี้เกิดจากความจงใจที่ไม่มีเหตุผลด้านการทหารมารองรับ” ฟิลิป ลูเธอร์ ผู้อำนวยการเอไอประจำภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ ระบุ
“คดีอาชญากรรมสงครามจะต้องถูกตรวจสอบอย่างอิสระและเป็นกลาง ผู้ที่กระทำความผิดจะต้องถูกดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรม”
ลูเธอร์ อ้างหลักฐานหลายอย่าง รวมไปถึงถ้อยแถลงของกองทัพอิสราเอลในขณะนั้นที่ระบุว่า การโจมตีดังกล่าวเป็น “บทลงโทษแบบเหมารวมต่อพลเมืองในกาซา” และมีเป้าหมายเพื่อทำลายชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขาให้สูญสิ้นไป
กองทัพอิสราเอลยังไม่แถลงตอบโตข้อกล่าวหาของ เอไอ แต่ก่อนหน้านี้รัฐบาลยิวเคยปฏิเสธไม่ยินยอมให้องค์การสหประชาชาติเข้าไปตรวจสอบการก่ออาชญากรรมสงครามที่อาจเกิดขึ้น โดยอ้างว่ายูเอ็น “ลำเอียง”
กองทัพอิสราเอลได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางอาญาต่อเหตุโจมตีที่เกิดขึ้น รวมถึงการยิงถล่มโรงเรียนของยูเอ็นซึ่งแพทย์ระบุว่าทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 15 ราย ตลอดจนการทิ้งบอมบ์ที่ชายหาดซึ่งคร่าชีวิตเด็กเล็กไป 4 คน อย่างไรก็ตาม นักวิจารณ์มองว่ากระบวนการสอบสวนของอิสราเอลอาจไม่เป็นอิสระพอ
สงครามระหว่างกองทัพยิวและขบวนการอิสลามิสต์ฮามาสซึ่งยุติลงเมื่อวันที่ 26 สิงหาคมที่ผ่านมาทำให้มีชาวปาเลสไตน์ถูกสังหารไปกว่า 2,100 คน โดยส่วนใหญ่เป็นพลเรือน ขณะที่ฝ่ายอิสราเอลสูญเสียชีวิตพลเมืองไปเพียง 73 ราย เป็นทหาร 67 นาย
รายงานของเอไอ ระบุว่า อาคารสำคัญหลังหนึ่งที่ถูกจรวดอิสราเอลทำลายคือศูนย์การค้าเทศบาลในเมืองราฟาห์ ซึ่งมีทั้งห้างสรรพสินค้า คลินิก และสำนักงาน เป็นแหล่งรายได้เลี้ยงปากท้องชาวปาเลสไตน์หลายร้อยครัวเรือน
แม้ประชาชนที่อยู่ในอาคารเหล่านี้จะได้รับคำเตือนล่วงหน้าจากกองทัพอิสราเอล แต่ก็ไม่มีเวลาพอที่จะขนสิ่งของมีค่าออกมา
นอกจากนี้ ประชาชนที่อยู่ในอาคารใกล้เคียงก็ได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก หลายร้อยคนต้องกลายเป็นคนไร้ที่อยู่
อิสราเอลอ้างว่า อาคารหลังหนึ่งที่ถูกโจมตีถูกใช้เป็นศูนย์บัญชาการของพวกฮามาส ส่วนอีกแห่งก็ “มีทรัพยากรซึ่งเกี่ยวข้องกับกลุ่มติดอาวุธในปาเลสไตน์” อย่างไรก็ดี ลูเธอร์ โต้แย้งว่า กองทัพ “มีหน้าที่ต้องเลือกแนวทางและวิธีโจมตีที่จะสร้างความสูญเสียต่อพลเรือนและทรัพย์สินของพวกเขาให้น้อยที่สุด”
เอไอ อ้างว่า เคยส่งรายงานเกี่ยวกับปฏิบัติการโจมตีทางอากาศไปยังอิสราเอลเพื่อขอคำอธิบาย แต่กลับไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน
รายงานฉบับนี้เรียกร้องให้รัฐยิวอนุญาตให้ เอไอ และองค์กรสิทธิมนุษยชนอื่นๆ เข้าไปในฉนวนกาซา และเปิดทางให้คณะทำงานของยูเอ็นตรวจสอบเรื่องนี้โดยไม่มีอุปสรรคขัดขวาง