เอเจนซีส์ - เทเรซา เมย์ รัฐมนตรีมหาดไทยของอังกฤษประกาศถอนสัญชาติพลเมืองอังกฤษ วัย 51 ปี จากนิวคาสเซิล พร้อมบุตรชาย 3 คนถูกถอนสัญชาติและประกาศถูกเนรเทศจากอังกฤษตามกฎหมาย British Nationality Act 1981 ในขณะที่ครอบครัวนี้อยู่ในปากีสถาน หลังจากลูกสาววัย 22 ปีของครอบครัวได้เข้าร่วมสู้กับกลุ่มมุสลิมติดอาวุธในซีเรีย และถือเป็นครอบครัวแรกที่ถูกสั่งถอนสัญชาติหลังจากเมย์เข้ารับตำแหน่งในปี 2010 เนื่องจากเป็นภัยต่อความมั่นคงอังกฤษ
เดลีเมล สื่ออังกฤษ รายงานวันนี้(8)ว่า บิดาวัย 51 ปีที่เกิดในอังกฤษพร้อมบุตรชาย3 คน ทั้งหมดถูกกล่าวหาว่าเชื่อมโยงกับกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์ และถูกเทเรซา เมย์ รัฐมนตรีมหาดไทยของอังกฤษประกาศขับออกนอกประเทศ
และเชื่อกันว่าครอบครัวของชายวัย 51ปีจากนิวคาสเซิลเป็นครอบครัวแรกที่ถูกสั่งเพิกถอนสัญชาติหลังจากเมย์เข้ารับตำแหน่งในปี 2010 เนื่องจากเป็นภัยต่อความมั่นคงอังกฤษ ซึ่งชายผู้นี้กล่าวทั้งน้ำตาว่า คำสั่งของเมย์ครั้งนี้ทำให้ครอบครัวของเขาแตกแยก
แต่ชายวัย 51ปียอมรับว่า ลูกสาวของเขาได้เดินทางไปร่วมรบกับกลุ่มติดอาวุธในซีเรีย พร้อมสามี ซึ่งเป็นที่รู้จักในหมู่นักรบญิฮัด แต่ปฎิเสธความเกี่ยวข้องการก่อการร้าย
สื่ออังกฤษรายงานเพิ่มเติมว่า พ่อวัย 51 ปีพร้อมกับลูกชาย 3 คนในวัย 20ปี ถูกสั่งถอนสัญชาติทั้งหมดในขณะที่ครอบครัวนี้กำลังพำนักในปากีสถานตามกฎหมายBritish Nationality Act 1981 ของอังกฤษ
และภรรยาและลูกสาวคนที่ 4ที่อยู่ในวัยรุ่นและพิการ ถึงแม้ไม่ได้ถูกสั่งขับออกนอกประเทศด้วย แต่ไม่สามารถเดินทางกลับเข้าอังกฤษได้ เนื่องจากคนทั้งคู่ต้องการอยู่ร่วมกับสมาชิกครอบครัวทั้งหมดพร้อมหน้า
“พวกเราเป็นผู้บริสุทธิจากข้อกล่าวหาทั้งปวง แต่สถานการณ์ที่เป็นอยู่ได้ปิดปากพวกเราไม่ให้สามารถพูดอะไรได้” ชายชาวนิวคาสเซิลวัย 51ปีให้สัมภาษณ์สื่อ ซันเดย์ ไทม์ส
และเปิดเผยต่อว่า “เราเป็นชาวอังกฤษทั้งร่างกายและจิตใจ คุณค่าของความเป็นอังกฤษไม่ได้ขัดแย้งกับความเป็นมุสลิมแต่อย่างใด และจากจนถึงวินาทีนี้ ภาษาอังกฤษยังเป็นภาษาเดียวที่พวกเราใช้ในการสื่อสาร แต่เราเป็นครอบครัวพลเมืองอังกฤษที่ถูกทอดทิ้งโดยรัฐบาลของเราเอง และคำสั่งนี้ได้ทำให้ครอบครัวของเราแตกแยก”
ทั้งนี้ชายชาวนิวคาสเซิลได้ปฎิเสธถึงข้อกล่าวหาที่เขาเรียกว่า “ไร้สาระ” ในการอ้างว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับทั้งกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะ และกลุ่มก่อการร้ายตอลิบานปากีสถาน (LeT)โดยอ้างว่า เสมือนเข้าไปพัวพันทั้งพรรคคอนเซอร์เวทีฟ และพรรคแรงงงานของอังกฤษในเวลาเดียวกัน
แต่กระนั้นชายวัย 51 ปีคนนี้ยอมรับว่า ลูกสาววัย 22 ปีในขณะนี้อยู่ในซีเรียพร้อมกับบุตร 3 คนของเธอและรวมถึงสามีของเธอที่ถูกกลุ่มนักรบญิฮัดที่นั้นให้ความสำคัญเป็นเสมือน “วีไอพี”
โดยเขากล่าวว่า เขาเห็นภาพลูกสาวที่ยังคงมีสถานภาพพลเมืองอังกฤษถ่ายภาพข้างปืนกลเบา และครอบครัวของเขามีแผนที่จะขออุทธรณ์คำสั่งนี้ต่อไป หลังจากความพยายามที่จะอ้างสิทธิความเป็นพลเมืองอังกฤษถูกปฎิเสธโดยคณะกรรมการอุทธรณ์อพยพเข้าเมืองพิเศษของอังกฤษ Special Immigration Appeals Commission (SIAC)
เดลีเมลรายงานเพิ่มเติมว่า สมาชิกครอบครัวทั้งหมดนี้มีหนังสือเดินทางปากีสถาน แต่พวกเขาอ้างว่ารู้สึกเหมือนเป็นคนต่างด้าวในปากีสถาน และต้องเดินทางกลับบ้าน
อย่างไรก็ตาม โฆษกของกลุ่มสิทธิมนุษยชน “ลิเบอร์ตี” กล่าวว่า ครอบครัวอังกฤษจากนิวคาสเซิลเป็นเหยื่อของศาลลับอังกฤษ
ซึ่งผู้พิพากษาอังกฤษของคดีนี้ได้วิเคราะห์ถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับชีวิตของครอบครัว รวมไปถึงภรรยาและลูกสาวที่พิการที่ยังอาศัยในอังกฤษ แต่ทว่าผู้พิพากษาอังกฤษให้ความสำคัญกับภัยความมั่นคงที่จะเกิดกับอังกฤษเป็นอันดับแรก
ด้านเมย์ รัฐมนตรีมหาดไทยอังกฤษเปิดเผยว่า การตัดสินใจของเธอมาจากข้อมูลที่ได้รับมาจากMI 5 และการอ้างว่าครอบครัวนี้เกี่ยวพันกับกลุ่มก่อการร้าย
ซึ่งจดหมายที่ลงนามโดยรัฐมนตรีกระทรวงหมาดไทยอังกฤษส่งมายังครอบครัวนี้ในปี 2011 ระบุว่า สัญชาติอังกฤษของพวกเขาจะถูกเพิกถอน “เพื่อสวัสดิภาพและความปลอดภัยของอังกฤษ”
และสื่ออังกฤษรายงานว่า นับตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา มีพลเมืองอังกฤษ 27 รายที่ถูกสั่งเพิกถอนสัญชาติเนื่องมาจากภัยก่อการร้าย