เอเอฟพี - เกิดเหตุกลุ่มติดอาวุธโจมตีจุดตรวจของปากีสถานใกล้กับชายแดนอัฟกานิสถาน แต่ทางกองทัพปากีสถานได้ตอบโต้จนทำให้ฝ่ายโจมตีเสียชีวิตอย่างน้อย 6 ราย
เจ้าหน้าที่ความมั่นคง ระบุว่า "มีผู้ก่อการร้ายประมาณ 70 - 80 คน" ได้เข้าโจมตีจุดตรวจดังกล่าว โดยกลุ่มติดอาวุธเหล่านั้นถูกสังหารไป 6 รายและได้รับบาดเจ็บอีก 9 ราย จากการตอบโต้ของกองกำลังทหารปากีสถาน
การโจมตีครั้งนี้ เกิดขึ้นในคืนวันอังคาร (29 ก.ค.) ตรงบริเวณจุดตรวจที่อยู่ระหว่างตริปามัน กับอินคาลซาร์ ในเขตโลเวอร์เดียร์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถาน ใกล้กับชายแดนอัฟกานิสถาน
การก่อเหตุโจมตีจุดตรวจของกองกำลังความมั่นคงปากีสถานหลายครั้ง ของบรรดากลุ่มติดอาวุธในอัฟกานิสถาน กำลังส่งผลให้ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างทั้งสองชาติไม่ค่อยดีนัก
ปากีสถานได้กล่าวโทษ "มูลลาห์ ฟัซลุลเลาะห์" หัวหน้ากลุ่ม "เตห์รีค อี ตอลิบาน ปากีสถาน" (ตอลิบานปากีสถาน) สำหรับการโจมตีครั้งนี้ ทั้งนี้ เชื่อกันว่าหัวหน้ากลุ่มก่อความไม่สงบรายนี้ซ่อนตัวอยู่ในจังหวัดนูริสถานของอัฟกานิสถาน
คำแถลงของเจ้าหน้าที่การต่างประเทศของปากีสถาน ระบุว่า ได้เรียกตัวอุปทูตอัฟกานิสถานเข้าพบพร้อมกับประท้วง "อย่างรุนแรง" สำหรับเหตุโจมตีครั้งนี้
"เป็นอีกหนึ่งครั้ง ที่มีการเรียกร้องให้ทางการอัฟกานิสถานดำเนินการหยุดยั้งไม่ให้เกิดการยิงข้ามชายแดนและยกกำลังเข้าโจมตีในเขตพื้นที่บริเวณแนวชายแดน ด้วยฝีมือของกลุ่มผู้ก่อการร้าย" คำแถลง ระบุไว้
กองทัพปากีสถานกำลังสู้รบและรุกเข้าใส่พวกตอลิบานที่อยู่ในเขตพื้นที่ นอร์ท วาซิริสถานซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของพวกชนเผ่าต่างๆ มาตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายน
การโจมตีครั้งนี้ตกเป็นข่าวลือมานานหลายเดือนแล้ว แต่เริ่มมีการสู้รบอย่างจริงจังหลังจากที่มีกลุ่มก่อความไม่สงบเข้าโจมตีสนามบินการาจี จนทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบราย ส่งผลให้กระบวนการสร้างสันติกับกลุ่มตอลิบานต้องล้มเหลวไป
นอร์ท วาซิริสถาน กลายเป็นฐานที่มั่นสำคัญของพวกตอลิบานในปากีสถานที่ลุกขึ้นต่อต้านรัฐบาลตั้งแต่ปี 2007 ขณะที่สหรัฐฯ ก็ออกมาเรียกร้องนานแล้ว ให้มีการจัดการกับบรรดากลุ่มติดอาวุธพื้นที่ดังกล่าว ที่มุ่งเป้าโจมตีกองกำลังนาโต้ในอัฟกานิสถาน
กองทัพปากีสถาน ระบุว่า มีกลุ่มติดอาวุธมากกว่า 500 ราย กับทหารของปากีสถาน 27 ราย ที่เสียชีวิตจากการสู้รบกันตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมิถุนายน อย่างไรก็ตาม ตัวเลขผู้บาดเจ็บล้มตายของฝ่ายกลุ่มติดอาวุธยังไม่ใช่ตัวเลขที่สามารถยืนยันได้อย่างเป็นกลาง
นอกจากนี้ ยังมีชาวบ้านอีกประมาณ 800,000 คน ที่ถูกบีบให้ย้ายหนีออกจากเขต นอร์ท วาซิริสถาน เพราะการโจมตี ซึ่งชาวบ้านเหล่านี้ส่วนใหญ่ต้องลงเอยด้วยการไปอยู่ในเมืองบันนูที่อยู่ใกล้ๆ ใช้ชีวิตภายในค่ายที่พักของรัฐบาล หรือไม่ก็ต้องจ่ายค่าเช่าราคาแพงสำหรับที่พักของเอกชน
ในเขตพื้นที่เทือกเขาทุรกันดารของพวกชนเผ่าอย่าง นอร์ท วาซิริสถาน เป็นแหล่งกบดานของกลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์ทุกขบวนการมาหลายปี อาทิ อัลกออิดะห์ , ตอลิบานปากีสถาน รวมไปถึงพวกนักรบต่างชาติอย่างพวกอุซเบกและอุยกูร์
อย่างไรก็ตาม มีหลายฝ่ายที่เกรงว่า บรรดากลุ่มติดอาวุธระดับแนวหน้า อาจจะหลบหนีออกจากพื้นที่นี้ไปเรียบร้อยแล้ว อาทิ พวกนักรบของเครือข่ายฮักกานี ที่ถูกกล่าวโทษสำหรับเหตุนองเลือดหลายครั้งในอัฟกานิสถาน