เอเอฟพี - ภายหลังที่มีการตรวจพบว่าร่างผู้เสียชีวิตที่ไหม้ดำเป็นตอตะโกในหลุมปริศนา มีอัตลักษณ์ตรงกับหนึ่งในนักศึกษาวิทยาลัยครู 43 ชีวิตที่หายตัวไปตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา ก็เกิดกระแสหวั่นวิตกรุนแรงยิ่งขึ้นว่าวัยรุ่นกลุ่มนี้อาจถูก แก๊งค้ายาเสพติดที่มีสายสัมพันธ์กับตำรวจสังหารหมู่
เมื่อเดือนที่แล้ว บรรดาเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจแดนจังโก้ได้ส่งร่างอันไหม้เกรียมไปให้มหาวิทยาลัยแพทย์ออสเตรียตรวจพิสูจน์ ภายหลังแก๊งค้ายาเสพติดที่มีตำรวจคอยหนุนหลังยอมรับสารภาพว่า พวกเขาเป็นผู้ลงมือสังหารนักศึกษากลุ่มนี้ ก่อนนำศพพวกเขาไปเผาทำลาย ในรัฐเกร์เรโร ทางตอนใต้ของเม็กซิโก
สำนักงานอัยการสูงสุดของเม็กซิโกมีกำหนดจัดการแถลงข่าวเกี่ยวกับคดีนี้ในวันอาทิตย์ (7 ธ.ค.) แต่เจ้าหน้าที่คนหนึ่งยืนยันกับเอเอฟพีว่า พบร่างผู้เสียชีวิตรายหนึ่งมีอัตลีกษณ์ตรงกับนักศึกษาวิทยาลัยครูที่หายตัวไป
ทั้งนี้ หากพิสูจน์ได้ว่านักศึกษาเสีย 43 คนเสียชีวิตแล้วทั้งหมด คดีนี้ก็จะกลายเป็นหนึ่งในเหตุสังหารหมู่ครั้งเลวร้ายที่สุด ในช่วงที่เม็กซิโกประกาศสงครามกับยาเสพติด จนทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 80,000 คน และสูญหายอีก 22,000 คน นับตั้งแต่ปี 2006
คดีนี้ที่จุดประกายให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วโลกคดีนี้ ได้สะท้อนให้เห็นถึงการดิ้นรนจัดการกับปัญหาการคอร์รัปชันของเม็กซิโก และบ่อนทำลายความน่าเชื่อถือของประธานาธิบดี เอนริเก เปนญา เนียโต ที่เคยรับประกันว่า นโยบายความมั่นคงของตนใช้ได้ผล
โฆษกของครอบครัวนักศึกษาที่หายไป ซึ่งจัดการประท้วงระลอกใหม่ในกรุงเม็กซิโกซิตี เมื่อวันเสาร์ (6) ได้ออกมายืนยันอัตลักษณ์ของศพที่ค้นพบ ท่ามกลางผู้ชุมนุมเรือนพันที่พากันโบกสะบัดธงดำ และเปล่งเสียงเรียกร้องให้ประธานาธิบดี เปนญา เนียโต ลาออกจากตำแหน่ง
เฟลิเป เด ลา ครูซ โฆษกของครอบครัวกล่าวว่า แม้ว่าจะพบข้อมูลที่ชี้ว่า มีนักศึกษาคนหนึ่งถูกฆ่าจริง แต่ญาติๆ ของพวกเขาก็จะยังเดินหน้าตามหาเด็กหนุ่มอีก 42 คนต่อไป
ครอบครัวของนักศึกษากลุ่มนี้ยังไม่ยอมปักใจเชื่อว่า ลูกหลานของพวกเขาถูกฆ่า พร้อมกับเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งตามหาพวกเขา ทั้งยังสวมบทบาทแกนนำในภารกิจค้นหาวัยรุ่นกลุ่มนี้ทั่วรัฐเกร์เรโร
เด ลา ครูซ ปราศรัยกับฝูงชนว่า “หากพวกเขาคิดว่า พวกเราจะร้องห่มร้องไห้เพราะเด็กหนุ่มคนหนึ่งมีอัตลักษณ์ตรงกับศพ พวกเขาคิดผิดถนัด”
ขณะที่ร่างผู้เสียชีวิตที่ระบุอัตลักษณ์ได้แล้วคือ อเล็กซันเดอร์ โมรา นักศึกษาวิทยาลัยครูอายอตซินาปา ในรัฐเกร์เรโร โดยญาติพี่น้องของพวกเขาได้รับทราบข่าวนี้จากผู้เชี่ยวชาญอิสระด้านนิติเวชชาวอาร์เจนตินา ซึ่งครอบครัวของนักศึกษาที่หายไปว่าจ้างให้เข้ามาช่วยตรวจสอบคดีนี้ โดยโมราแนะนำให้ส่งร่างผู้เสียชีวิตไปตรวจที่ออสเตรีย
