เอเอฟพี - บรรดาเจ้าพนักงานเม็กซิโกวานนี้ (15 ต.ค.) ระดมกำลังออกค้นหานักศึกษาที่หายตัวไป 43 ชีวิตในคดีที่สร้างความโกรธแค้นให้แก่ประชาชนในแดนจังโก้ ภายหลังที่เจ้าหน้าที่นิติเวชสรุปว่า ร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 28 ศพในหลุมศพหมู่ที่มีการค้นพบเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาไม่ใช่นักศึกษาที่หายไป
ถึงแม้ว่าข่าวที่ว่านักศึกษาวิทยาลัยครูหัวเสรีไม่ได้กลายเป็นศพในหลุมดังกล่าวจะช่วยคลายความกังวลไปได้เปราะหนึ่ง แต่ทางการเม็กซิโกก็ยังไม่พบเบาะแสว่านักศึกษากลุ่มนี้อยู่ที่ใด ทั้งยังมีศพของผู้ที่เสียชีวิตอย่างปริศนารอให้พวกเขาตรวจสอบอีก 28 ราย
ประธานาธิบดีเอนริเก เปนญา เนียโต แห่งเม็กซิโก กำลังได้รับแรงกดดันจากทั้งภายใน และภายนอกประเทศให้สางคดีที่ชวนสับสนคดีนี้ หลังนักศึกษากลุ่มนี้ถูกขบวนการอาชญากรรมที่มีสายสัมพันธ์กับตำรวจในรัฐเกร์เรโร ทางตอนใต้จองประเทศ เปิดฉากโจมตีเมื่อวันที่ 26 กันยายน
เปนญา เนียโต ชี้ว่า “เหตุการณ์น่าเสียใจเหล่านี้คือบททดสอบของสถาบันและสังคมเม็กซิโก”
กรมความปลอดภัยสาธารณะของรัฐเกร์เรโรได้ขยายพื้นที่ค้นหา โดยระบุว่าได้แจกจ่ายใบปลิวที่มีภาพถ่ายของนักศึกษาที่สูญหายไปทั้ง 43 คนของวิทยาลัยครู แถบชานเมืองชิลปันซิงโก ซึ่งเป็นเมืองเอกของรัฐเกร์เรโร ให้แก่ประชาชนในพื้นที่ 6 รัฐ
ตำรวจม้า และสุนัขตำรวจถูกส่งไปค้นหาตามพื้นที่ชนบท และพื้นที่ยากต่อการเข้าถึงในเมืองอิกัวลา ที่อยู่ห่างจากกรุงเม็กซิโกซิตีลงไปทางใต้ราว 200 กิโลเมตร จุดที่มีผู้พบเห็นนักศึกษากลุ่มนี้เป็นครั้งสุดท้าย
เจ้าหน้าที่ตำรวจส่วนกลาง และอาสาสมัครป้องกันตนฝ่ายพลเรือนราว 300 คนได้สนธิกำลังออกค้นหานักศึกษากลุ่มที่หายไปนานหลายวัน
***หวาดกลัวและอับอาย ***
นอกจากคดีนักศึกษาหาย ตอนนี้บรรดาเจ้าหน้าที่พนักงานเม็กซิโกยังพบเหยื่อผู้เสียชีวิตที่ไม่เคยรับรู้มาก่อน ขณะที่พวกเขากู้ศพขึ้นมาจากหลุมศพหมู่ในเมืองอิกัวลา
ในปีนี้เพียงปีเดียว ทางการได้ตรวจพบศพผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 80 รายในเมืองอิกัวลา ที่มีประชากรราว 140,000 คน ซึ่งเผยให้เห็นถึงความน่าหวาดกลัวของอาชญากรที่ยังลอยนวล
ฆาเบียร์ โอลิบา ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคง จากมหาวิทยาลัยอิสระแห่งชาติเม็กซิโกตั้งข้อสังเกตว่า “พวกเขาอาจเสียชีวิตจากการสู้กัน (ระหว่างแก๊งค้ายา) หรือการขู่กรรโชก การลักพาตัว หรือการค้าอวัยวะมนุษย์”
บรรดาเจ้าพนักงานกล่าวว่า แก๊ง “เกร์เรโรส อูนิโดส” ซึ่งเป็นแยกย่อยมาจากขบวนการค้ายาเสพติดขนาดใหญ่กว่าอย่าง “เบลตรัง เลย์บา” ซึ่งมีส่วนพัวพันกับการทำสงครามเข่นฆ่าแก๊งคู่อริ และแทรกซึมเข้าสู่หน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่น
ภรรยาของนายกเทศมนตรีเมืองอิกัวลา เป็นน้องสาวของสมาชิกแก๊งค้ายา เบลตรัง เลย์บา ที่ถูกสังหารไปแล้ว โดยในเวลานี้ นายกเทศมนตรี ภรรยา ตลอดจนผู้กำกับการตำรวจในเมืองนี้กำลังหลบหนีการตามล่าตัวของเจ้าหน้าที่
ทั้งนี้ เม็กซิโกต้องเผชิญกับสงครามยาเสพติด ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 80,000 คน และสูญหายอีก 22,000 คนนับตั้งแต่ปี 2006 แต่การที่พวกเขาพบต้องเผชิญเหตุชั่วร้าย ก็ไม่ได้ทำให้พวกเขาเฉยชาต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมืองอิกัวลา
ผู้ประท้วงกว่า 1,000 คนได้อกมารวมตัวชุมนุมหน้าสำนักงานอัยการในกรุงเม็กซิโกซิตี หนึ่งสัปดาห์หลังจากที่ผู้คนเรือนหมื่นจัดการประท้วงขึ้นทั่วประเทศ
โรย กัมโปส ประธานกลุ่มนักหยั่งเสียง กองซุลตา มิตอฟสกี กล่าวกับเอเอฟพีว่า ชาวเม็กซิกันทั้ง “หวาดผวาและอับอาย”
กัมโปสกล่าวว่า คดีนี้ได้สร้างความด่างพร้อยให้แก่แวดวงการเมือง “เนื่องจากแสดงให้เห็นว่า พวกมาเฟียกับนักการเมืองมีความสัมพันธ์กัน”