เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ประธานาธิบดี เปโตร โปโรเชนโก แห่งยูเครน เผยในวันเสาร์ (6 ธ.ค.) ระบุ มีการบรรลุข้อตกลงขั้นต้นที่จะจัดการเจรจาฝ่าทางตันวิกฤตยูเครนในวันที่ 9 ธันวาคม นี้ ที่กรุงมินส์ก เมืองหลวงของเบลารุส ซึ่งถือเป็นความพยายามเพิ่มเติมในการยุติการสู้รบกับกลุ่มแบ่งแยกดินแดนทางภาคตะวันออกของประเทศ ถัดจากข้อตกลงหยุดยิงเมื่อเดือนกันยายน
การปะทะกันในภาคตะวันออกของยูเครนระหว่างกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่มีจุดยืนฝักใฝ่รัสเซียกับกองทัพยูเครนยังคงดำเนินต่อไปจนถึงขณะนี้แม้จะมีการลงนามหยุดยิงกันตั้งแต่เดือนกันยายน ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจากความขัดแย้งนี้ซึ่งปะทุขึ้นตั้งแต่กลางเดือนเมษายนที่ผ่านมาได้เพิ่มจำนวนเป็นมากกว่า 4,300 รายแล้ว
ก่อนหน้านี้ แกนนำของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนรวมถึงผู้แทนรัฐบาลยูเครนและองค์การความร่วมมือและความมั่นคงแห่งยุโรป (โอเอสซีอี) ได้จัดการเจรจากันที่เมืองหลวงของเบลารุสเมื่อ 5 กันยายน ซึ่งนำไปสู่การออกแผนสันติภาพ 12 ข้อ ขณะที่ผู้นำยูเครน ยืนยันในวันเสาร์ (6) ว่า การเจรจารอบใหม่ที่กำลังจะมีขึ้น ณ กรุงมินส์กในวันที่ 9 ธ.ค. นี้ จะมุ่งเน้นไปที่การหาทางนำแผนสันติภาพดังกล่าวมาบังคับใช้ให้เกิดผลที่เป็นรูปธรรมในทางปฏิบัติ
ด้านแหล่งข่าวทางการทูตในกรุงเคียฟ ระบุว่า รัฐบาลยูเครนเตรียมผลักดันให้มีการบังคับใช้เขตกันชนปลอดทหารในพื้นที่พิพาททางตะวันออกของประเทศ รวมถึงเตรียมผลักดันให้ทั้งกองทัพยูเครนและฝ่ายกบฏแยกดินแดนยอมถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่
ทั้งนี้ ข้อมูลจากองค์การสหประชาชาติ ระบุว่า โดยเฉลี่ยแล้วจะมีทหารของรัฐบาลยูเครน นักรบของฝ่ายกบฏ ตลอดจนพลเรือนถูกสังหารไม่น้อยกว่า “13 คนต่อวัน” นับตั้งแต่ที่มีการทำข้อตกลงหยุดยิงเมื่อเดือนกันยายนเป็นต้นมา