เอเอฟพี - กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบอิสลามิสต์ ก่อเหตุโจมตีแบบลุยแหลกเมื่อวันพฤหัสบดี (4 ธ.ค.) ในนครกรอซนีย เมืองหลวงของเชชเนีย อันเป็นสาธารณรัฐปกครองตนเองของรัสเซียในบริเวณตอนเหนือของเทือกเขาคอเคซัส จนเกิดปะทะอย่างดุเดือดกับกองกำลังความมั่นคงของทางการ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตไป 20 คน และตลาดใหญ่แห่งหนึ่งถูกเผาผลาญ
หลังเปิดการโจมตีแล้ว กลุ่มหัวรุนแรงอิสลามิสต์เหล่านี้ยังได้เข้ายึดโรงเรียนแห่งหนึ่งเอาไว้เป็นเวลาหลายชั่วโมง และตำรวจต้องใช้มาตรการปิดกั้นพื้นที่ห้ามสัญจรบนถนนหลายสายของเมืองนี้
เหตุรุนแรงคราวนี้ปะทุขึ้นไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน จะกล่าวแถลงนโยบายประจำปีต่อรัฐสภาของประเทศในกรุงมอสโก โดยที่เขาใช้โอกาสนี้ประกาศว่าจะยุติความไม่สงบในเชชเนียให้จงได้
ปูตินให้สัญญาเรื่อยมาว่าจะปราบปรามกวาดล้างการก่อความไม่สงบในภูมิภาคคอเคซัสเหนือ ทว่าความรุนแรงยังคงคุกรุ่นและปะทุขึ้นเป็นระยะๆ ทั้งในเชชเนีย และดินแดนใกล้เคียงอื่นๆ โดยที่ในเชชเนียเอง ได้เหตุเหตุระเบิดฆ่าตัวตายครั้งใหญ่ขึ้นในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
ในการแถลงต่อรัฐสภาคราวนี้ ปูตินได้กล่าวประณามว่าการโจมตีเป็นฝีมือของ “พวกผู้ก่อการร้าย” และกล่าวถึงตำรวจที่เสียชีวิตไปในเหตุการณ์ว่าเป็น “วีรชนที่แท้จริง”
กลุ่มอิสลามิสต์ที่ใช้ชื่อว่า “คอเคซัส เอมิเรต” ซึ่งได้อ้างความรับผิดชอบเหตุโจมตีในพื้นที่แถบนี้มาหลายครั้งแล้ว ได้ออกมาประกาศตนเป็นผู้ก่อเหตุครั้งล่าสุดนี้อีก โดยระบุในคลิปวิดีโอซึ่งโพสต์บนเว็บไซต์ “คัฟคัซ เซนเตอร์” ว่า การโจมตีคราวนี้เป็นการแก้แค้นให้แก่ “ผู้หญิงมุสลิมที่ถูกกดขี่”
ทางด้าน รัมซัน คาดืยรอฟ ผู้นำของเชชเนีย ได้รายงานต่อปูติน ระหว่างเข้าพบหารือในวันพุธ ซึ่งมีการแพร่ภาพทางโทรทัศน์ด้วยว่า พวกอิสลามิสต์หัวรุนแรงที่ก่อเหตุถูกสังหารเรียบทั้ง 10 คนภายหลังต่อสู้กับฝ่ายเจ้าหน้าที่อยู่นานหลายชั่วโมง โดยที่ผู้สื่อข่าวระบุว่าได้เห็นรถสายพานลำเลียงพลหุ้มเกราะหลายคันแล่นเข้าไปในพื้นที่พำนักอาศัยหลายย่าน และมีการยิงต่อสู้กันตามถนนหลายสายในบริเวณนั้น
ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีผู้หนึ่งบอกว่า พื้นที่ศูนย์กลางของเมืองได้ถูกเจ้าหน้าที่ปิดกั้นเป็นบริเวณกว้างทีเดียว โดยที่ได้ยินเสียงยิงปืนทั้งปืนเล็กยาวและปืนขนาดใหญ่กว่านั้น จากบริเวณที่ห่างตัวเขาไปหลายช่วงตึก
“พวกโจรทั้ง 10 คนถูกกำจัดไปทั้งหมดแล้ว” คาดืยรอฟบอกกับปูติน “โชคร้ายที่ฝ่ายเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงความสูญเสียได้ แต่ทั้งเจตนาความตั้งใจตลอดจนแผนอุบายของพวกมันได้พ่ายแพ้พวกเราหมดแล้ว”
ส่วนปูตินกล่าวตอบว่า “คุณไม่มีเหตุผลที่จะต้องละอายใจเลย ในเมื่อทั้งตัวคุณเองและพวกเจ้าหน้าที่ของคุณต่างสามารถปฏิบัติการได้อย่างรวดเร็วและอย่างเป็นมืออาชีพ ดังนั้นจึงต้องขอขอบคุณทั้งตัวคุณและเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบรักษากฎหมายทั้งหมดในเชชเนียด้วยซ้ำ”
ตามคำแถลงของคณะกรรมการต่อต้านการก่อการร้ายแห่งชาติของรัสเซีย การปฏิบัติการต่อสู้กับพวกคนร้ายคราวนี้ นอกจากฝ่ายผู้ก่อเหตุตาย 10 คนแล้ว ตำรวจก็ถูกสังหารไป 10 คน และบาดเจ็บอีก 28 คน
คาดืยรอฟ บอกว่า กลุ่มหัวรุนแรงเหล่านี้แต่เดิมวางแผนจะเปิดการโจมตีในวันศุกร์ (5) แต่ได้เริ่มการปฏิบัติการรุนแรงของพวกเขาก่อนกำหนด ภายหลังถูกตำรวจควบคุมการจราจรสั่งหยุดเพื่อตรวจค้น ในช่วงเวลาก่อนเช้ามืดของวันพฤหัสบดี (4)
ขณะที่คำแถลงของคณะกรรมการต่อต้านการก่อการร้ายแห่งชาติกล่าวว่า การที่ตำรวจสามารถ “สะสาง” กลุ่มหัวรุนแรงนี้ลงได้ เป็นการ “ขัดขวางไม่ให้เกิดพฤติการณ์การก่อการร้ายครั้งใหญ่”
คาดืยรอฟให้สัมภาษณ์สถานีวิทยุเอคโคแห่งมอสโก ว่า คนร้ายเหล่านี้มีอาวุธหนักหลายอย่าง รวมทั้งเครื่องยิงลูกระเบิดด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเหตุโจมตีผ่านไปแล้ว ได้เห็นเศษซากหักพังและปลอกกระสุนตกเกลื่อนกลาดตามถนนหลายสาย และมีตลาดใหญ่แห่งหนึ่งถูกไฟไหม้เสียหาย ทั้งนี้กลุ่มหัวรุนแรงเหล่านี้ได้บุกเข้าไปยึดอาคารศูนย์สื่อมวลชนที่มีชื่อว่าเรียกว่า “เพรสเฮาส์” กลางเมืองกรอสนืย และโรงเรียนแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ห่างออกไปราว 1 กิโลเมตร
เจ้าหน้าที่รับผิดชอบหลายรายกล่าวว่า พวกคนร้ายซึ่งซ่อนตัวอยู่ในอาคารเพรสเฮาส์ ถูกฝ่ายตำรวจล่าสังหาร ขณะที่อาคารกำลังถูกไฟไหม้ลามเลียไปเรื่อยๆ