เอเอฟพี – คณะผู้แทนจากยุโรปซึ่งประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ 5 คนให้คำแนะนำวานนี้ (3) ว่า นักโทษเหล่านี้ควรได้รับการพิสูจน์ความผิดให้ชัดเจนเพื่อปล่อยตัวจากสถานกักกันของกองทัพสหรัฐฯในอ่าวกวนตานาโมของคิวบา และย้ายไปคุมขังภายใต้สภาพที่ยืดหยุ่นมากกว่านี้
ด้วยคำเชิญจากสหรัฐฯ การเยือนอย่างไม่เป็นทางการของคณะผู้แทนชุดนี้มีเจตนาเพื่อช่วยเสนอความคิดของฝ่ายยุโรปในเรื่องที่ว่า พวกเขาจะสามารถช่วยสหรัฐฯปิดเรือนจำที่ตกเป็นข้อวิพากษ์วิจารณ์นี้อย่างสมบูรณ์ได้อย่างไร
สมาชิกรัฐสภายุโรป 5 คน ซึ่งนำโดย ราชิดา ดาติ อดีตรัฐมนตรียุติธรรมของฝรั่งเศส ได้มาเยือนค่ายกักกันกวนตานาโมเมื่อวันอังคาร (2)
จากนักโทษทั้งหมด 142 คนที่ยังเหลืออยู่ 73 คนได้รับการพิสูจน์ความผิดเพื่อปล่อยตัวแล้ว โดยบางคนอยู่มาตั้งแต่สมัย จอร์จ ดับเบิลยู.บุช ผู้นำคนก่อนหน้าประธานาธิบดี บารัค โอบามา แต่พวกเขาก็ยังคงถูกจองจำโดยไม่มีการตั้งข้อหาหรือพิจารณาคดี
ในการให้สัมภาษณ์กับ เอเอฟพี ที่กรุงวอชิงตัน ดาติ เน้นย้ำว่า “บางสภาพการกักขังของนักโทษเหล่านี้เลวร้ายอย่างมากเมื่อพิจารณาถึงหลักฐานทั้งหมดเพียงน้อยนิดที่ใช้เอาผิดพวกเขา”
คณะผู้แทนชุดนี้ ได้พบและยื่นข้อเสนอต่อกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯและคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนขององค์การรัฐอเมริกัน (โอเอเอส) โดยเสนอว่า นักโทษชายทั้ง 73 คนนี้ควรถูกควบคุมไว้ในค่ายแยกต่างหาก “เพื่อส่งสัญญาณเชิงบวกให้กับประเทศภายนอก“ ที่อาจรับพวกเขาเอาไว้ ฟิลิป ไคล์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีฝ่ายรัฐสภา ดาติ บอกกับเอเอฟพี
นักโทษเหล่านี้ถูกจัดให้อยู่ใน 2 พื้นที่ คือแคมป์ 5 และแคมป์ 6 ยกเว้นแต่นักโทษ “ค่าหัวสูง” จำนวนหนึ่ง อย่างเช่นพวกที่ถูกกล่าวหามามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุโจมตี 11 กันยายน ที่อยู่ในแคมป์ 7
ภายใต้ข้อเสนอนี้ เหล่านักโทษที่ถูกบรรจุลงในรายชื่อปล่อยตัวจะถูกย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันในค่ายที่มีสภาพยืดหยุ่นกว่าเดิม ลักษณะเดียวกันกับชาวมุสลิมอุยกูร์จากจีน ที่อยู่ในสภาพกึ่งอิสระในค่ายอิกัวนา กลุ่มอาคารเล็กๆ ภายในค่ายกักกันแห่งนี้ ก่อนที่จะถูกปล่อยตัว
พฤติกรรมของนักโทษ ณ เวลาปัจจุบันเป็นตัวกำหนดว่าเขาจะถูกคุมขังในแคมป์ 6 หรือแคมป์ 5 ที่เข้มงวด
ดาติ กล่าวว่า “เมื่อคุณไปถึงที่นั่น มันไม่ใช่สถานกักกันตามความเข้าใจทั่วไป มันคล้ายกับศูนย์ยึดหน่วงมากกว่า กล่าวคือ เรากำลังกีดกันคนกลุ่มนี้ที่ถูกพิจารณาว่าเป็นอันตรายหรืออาจเป็นอันตรายออกจากสังคม”
“เมื่อเราไม่สามารถแสดงให้เห็นหรือพิสูจน์ว่าพวกเขาเป็นอันตรายจริง ก็ไม่มีเหตุผลที่พวกเขาจะอยู่ต่อ” ที่กวนตานาโม
โอบามา ได้ให้คำมั่นระหว่างการหาเสียงของเขาเมื่อปี 2008 ว่า เขาจะเริ่มต้นด้วยการปิดเรือนจำกวนตานาโม ที่ถูกสร้างขึ้นภายหลังเหตุโจมตี 11 กันยายนเพื่อคุมขังนักโทษจาก “สงครามตอบโต้การก่อการร้าย” ของสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม ความพยายามที่ทำงานนี้ให้สำเร็จกับถูกขัดขวางโดยอุปสรรคทั้งในและนอกประเทศ ทำให้ชะตากรรมของเรือนจำแห่งนี้และเหล่านักโทษที่นี่ถูกลืมเลือน