เอเอฟพี/รอยเตอร์ - แหล่งข่าวซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง และการทหารเปิดเผยวันนี้ (2 ธ.ค.) ว่า กองทัพเลบานอนได้รวบตัวภรรยา และลูกชายของ อาบู บาการ์ อัล-บักดาดี ซึ่งเป็นผู้นำสูงสุดของกลุ่มหัวรุนแรง “รัฐอิสลาม” (ไอเอส) ขณะทั้งสองเดินทางข้ามมาจากพรมแดนซีเรีย
แหล่งข่าวฝ่ายความมั่นคงกล่าวกับเอเอฟพีว่า “หน่วยข่าวกรองของกองทัพได้เข้าจับกุมภรรยาคนหนึ่งของเขา ซึ่งเดินทางมาพร้อมกับลูกชายใกล้เมืองอาร์ซัล (เมืองชายแดนของเลบานอน) เมื่อ 10 วันก่อน”
ส่วนแหล่งข่าวจากกองทัพเลบานอนรายหนึ่งยืนยันว่า เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมครอบครัวของบักดาดีได้จริง ทั้งยังระบุว่า หญิงที่ถูกจับกุมมีสัญชาติซีเรีย และลูกชายของเธอมีอายุราวๆ 8 ปี
การจับกุมตัวครั้งนี้ถือเป็นความเพลี่ยงพล้ำของบักดาดี และอาจถูกใช้เป็นข้อต่อรองกับกลุ่มหัวรุนแรงรัฐอิสลามที่ก่อเหตุลักพาตัวชาวต่างชาติ ตลอดจนจับชาวอิรัก และชาวซีเรียไปเป็นเชลยเป็นจำนวนมาก
หนังสือพิมพ์รายวัน” อัส-ซาฟีร์” ของเลบานอน ซึ่งเป็นสื่อเจ้าแรกที่เสนอรายงานข่าวการจับกุมกล่าวว่า กองทัพเลบานอนจับกุมเธอได้ “โดยประสานงานกับหน่วยข่าวกรองต่างชาติ”
แหล่งข่าวด้านความมั่นคงกล่าวว่า ภรรยาและลูกชายของบักดาดี ถูกนำตัวไปยังกองบัญชาการกระทรวงกลาโหมเลบานอนในหมู่บ้านยาเซ ซึ่งเป็นสถานที่ที่พวกเขากำลังถูกสอบสวน
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ความมั่นคงระดับอาวุโสคนหนึ่งของเลบานอนระบุว่า ภรรยาของบักดาดีเดินทางมากับลูกสาว ซึ่งขัดแย้งกับรายงานก่อนหน้านี้ที่ระบุว่าเป็นลูกชาย เจ้าหน้าที่เลบานอนระบุว่า ได้ดำเนินการตรวจดีเอ็นเอเพื่อพิสูจน์ว่าเด็กคนนี้เป็นลูกของบักดาดีจริงหรือไม่
นอกจากนี้ แหล่งข่าวด้านความมั่นคงชี้ว่า ก่อนหน้านี้การจับกุมตัวถูกปิดเป็นความลับ ขณะที่มีการวางแผนการด้านความมั่นคงอย่างรัดกุม
เมื่อเดือนมิถุนายน บักดาดีถูกประกาศให้เป็น “กาหลิบ” ของดินแดนที่กลุ่มรัฐอิสลามจัดตั้งเป็น “คอลิฟะห์” ซึ่งคร่อมอาณาเขตของซีเรียและอิรัก ทางตะวันออกของเลบานอน
เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2011 เขาถูกสหรัฐฯ ขึ้นบัญชี “ก่อการร้าย” และตั้งรางวัลนำจับ 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 328 ล้านบาท)
ด้านกลุ่มรัฐอิสลามยังไม่ได้ออกมาแสดงปฏิกิริยาตอบโต้ใดๆ ต่อข่าวการจับกุมลูกเมียผู้นำสูงสุดผ่านทางเว็บไซต์
ทั้งนี้ กองกำลังความมั่นคงเลบานอนได้ลงมือกวาดล้างบรรดาผู้มีใจฝักใฝ่กลุ่มรัฐอิสลามในเลบานอน ขณะที่หน่วยข่าวกรองก็เฝ้าสอดส่องแนวพรมแดนติดกับซีเรียด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ
ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา พวกเขาสามารถจับกุมสมาชิกกลุ่มรัฐอิสลามจำนวนมาก ที่ต้องสงสัยว่าก่อเหตุโจมตีเพื่อขยายอิทธิพลของกลุ่มรัฐอิสลามเข้าไปยังเลบานอน
ทางฝ่าย กลุ่มชาติพันธมิตรภายใต้การนำของสหรัฐฯ กำลังเพียรพยายามไล่ยึดคืนพื้นที่ในอิรักและซีเรีย ที่ถูกกลุ่มติดอาวุธหัวรุนแรงกลุ่มนี้รุกคืบยึดครอง โดยประธานาธิบดี บารัค โอบามาแห่งสหรัฐฯ ได้ให้คำมั่นจะ “สกัดกั้นและทำลาย” กลุ่มของบักดาดีให้สิ้นซาก ในยามที่กลุ่มนักรบญิฮาดกลุ่มนี้พยายามพลิกโฉมภูมิภาคตะวันออกกลางให้เป็นไปตามแนวคิดแบบอิสลามสุดโต่ง
ผลกระทบจากสงครามซีเรียได้สั่นสะเทือนไปถึงเลบานอนครั้งแล้วครั้งเล่า โดยกลุ่มติดอาวุธหัวรุนแรงที่มีแยกย่อยมาจากกลุ่ม “แนวหน้า อัล-นุสรา”ที่มีความสัมพันธ์กับกลุ่มก่อการร้าย “อัลกออิดะห์” และกลุ่มรัฐอิสลามต่างเรียกร้องให้มีเลบานอนปล่อยตัวสมาชิกกลุ่มหัวรุนแรงอิสลามิสต์กลุ่มนี้ ที่ถูกจับตัวไป เพื่อแลกกับอิสรภาพของเจ้าหน้าที่กองกำลังความมั่นคงของเลบานอน 27 ชีวิตที่ถูกจับเป็นตัวประกันเมื่อเดือนสิงหาคม
บักดาดี ซึ่งเป็นพลเมืองชาวอิรัก ได้ออกมาเรียกร้องให้มีการโจมตีเหล่าผู้นำของซาอุดีอาระเบีย ในคำแถลงที่ที่ถูกเผยแพร่ในนามของเขาเมื่อเดือนที่แล้ว
เขากล่าวว่า จะขยายคอลิฟะห์เขาสถาปนาขึ้นเองให้กว้างใหญ่ไพศาลจนครอบคลุมถึงซาอุดีอาระเบีย และชาติอาหรับอีก 4 ประเทศ พร้อมกับเรียกร้องให้ “ภูเขาไฟแห่งญิฮาด” ประทุขึ้นทุกหนทุกแห่งบนโลกใบนี้ ในการแถลงที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน
ประวัติส่วนตัวของบักดาดี ที่กลุ่มผู้สนับสนุนนำออกเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ระบุเพียงว่า เขาแต่งงานแล้ว แต่ไม่ให้รายละเอียดใดๆ ไปมากกว่านี้ อีกทั้งไม่เป็นที่แน่ชัดว่า เขามีภรรยาทั้งหมดกี่คน