เอเจนซีส์ – ลาร์รี แมคคิลเลียมส์ (Larry McQuilliams) มือปืนผิวขาว วัยกลางคนควงปืนบุกเดี่ยวสาดกระสุนร่วม 100 นัดใส่ย่านดาวทาวน์ออสติน รัฐเทกซัส และพยายามวางเพลิงเผากงสุลเม็กซิโกในเช้ามืดวันศุกร์ที่ถือเป็นวันหยุดที่ผู้คนยังมาราธอนจับจ่ายสินค้าลดราคาในวันแบล็กไฟรเดย์ตามห้างร้าน โดยพบถังแก๊สขนาดเล็ก 12 ถังหวังระเบิดสถานกงสุล ด้านตำรวจเทกซัสเผยเหตุจูงใจจากกดดันนโยบายเข้าเมืองสหรัฐฯ อนุญาตให้ลาตินอเมริกันอาศัยในสหรัฐฯได้
เมื่อเช้าวานนี้(28) พบ ลาร์รี แมคคิลเลียมส์ (Larry McQuilliams) ชายผิวขาววัย 49 ปีถูกยิงเสียชีวิต แต่ยังไม่แน่ใจในเบื้องต้นว่าเป็นเพราะชายผู้นี้ถูกตำรวจยิงจนเสียชีวิต หรือเขาปลิดชีพตนเอง
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯเปิดเผยเพียงว่า ดูเหมือนผู้ก่อเหตุมีแรงจูงใจทางการเมืองสืบเนื่องมาจากนโยบายเข้าเมืองที่ร้อนแรงในเวลานี้ ซึ่งที่ผ่านมาล่าสุดประธานาธิบดีสหรัฐฯใช้อำนาจทางบริหารอนุมัติให้ผู้เข้าเมืองผิดกฎหมายแต่เด็กสามารถได้รับกรีนคาร์ดอาศัยได้ในสหรัฐฯอย่างถูกกฎหมายเป็นเวลา 3 ปี โดยผู้ได้รับประโยชน์ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้อพยพจากลาตินอเมริกา
อาร์ท เอซเวโด (Art Acevedo) หัวหน้าตำรวจออสตินตอบคำถามที่ว่าเหตุใดจึงคาดว่าเกี่ยวข้องกับการต่อต้านรัฐบาลสหรัฐฯ “เป็นสิ่งที่ชัดเจนโดยไม่ต้องใช้มันสมองมาตรองเพราะเห็นได้ชัดอยู่แล้วจากเป้าหมายที่ถูกโจมตี บางครั้งปัญหาร้อนแรงทางการเมืองที่ถกเถียงกันในสังคมอเมริกันเนื่องจากนโยบายของรัฐ บางครั้งการโต้เถียงและเหตุผลนำไปสู่ผลลบ”
นอกจากนี้บีบีซี สื่ออังกฤษ รายงานว่า ในเบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ และตัวตึกกงสุลเม็กซิโกได้รับเสียหายน้อยจากไฟเผา
ซึ่งเจ้าหน้าที่สหรัฐฯพบว่าผู้ก่อเหตุสวมเสื้อเกราะ และทำให้เกรงว่าอาจมีการก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายขึ้น หน่วยเก็บกู้ระเบิดถูกเรียกมาเสริมกำลัง แต่ภายหลังประเมินว่าชายผู้นี้ไม่มีระเบิด
และล่าสุดวันนี้(29)เดลีเมล รายงานว่า กระทรวงต่างประเทศเม็กซิโกออกแถลงการณ์ แสดงความห่วงใยในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และประนามการลงมือโจมตีครั้งนี้
ด้าน โฮเซ แวน แวลเลน (Jesse Van Wallene) พนักงานเสริฟอายุ 29 ปี พยานในเหตุการณ์ให้สัมภาษณ์กับ NBC News สื่อสหรัฐฯ ว่า อยู่ห่างจากแมคคิลเลียมส์ มือยิงราว 15 ฟุต ขณะติดไฟแดง และเห็นชายผู้นี้มีปืนขนาดใหญ่อยู่ในมือ โดยแวลเลนได้อธิบายถึงลักษณะของมือยิงว่า “สวมเสื้อเกราะ พร้อมหมวกนิรภัยที่มีแผงติดเพื่อมองให้มีการมองเห็นชัดขึ้น “
ซึ่งเมื่อพิจารณาจากอุปกรณ์ที่มือยิงมีซึ่งไม่มีเครื่องหมายใดกำกับบอกสังกัดทำให้พยานผู้นี้ทราบทันทีว่า เขาไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ และในวินาทีต่อมาแมคคิลเลียมส์เปิดฉากยิงตึกตรงกันข้ามกับสำนักงานใหญ่ตำรวจในเทกซัส โดยพยานในเหตุการณ์เปิดเผยว่า แมคคิลเลียมส์ดูเหมือนตั้งใจยิงเข้าใส่ตึกแห่งนี้โดยไม่สนใจคนรอบข้าง ซึ่งโชคดีที่ตึกแห่งนี้ไม่มีไฟเปิดสว่าง
และจากการยิงทำให้ต้องมีการอพยพคนที่อยู่ภายในตึกสำนักงานใหญ่ตำรวจเทกซัสออกมาอย่างโกลาหล
และเอบีซีรายงานเพิ่มเติมว่า ดูเหมือนว่าแมคคิลเลียมส์จะมีประวัติการทำผิด แต่ไม่มีรายงานเปิดเผยออกมาในรายละเอียดในขณะนี้ และนอกจากสถานกงสุลเม็กซิโกแล้ว มือยิงชาวออสตินยังโจมตีสำนักงานใหญ่สถานีตำรวจออสติน ในรัฐเทกซัส รวมถึง ศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ
และพบว่ารถตู้สีขาวของแมคคิลเลียมส์ยังคงจอดอยู่ที่ด้านนอกของสำนักงานใหญ่ตำรวจเทกซัส ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นกำลังสำรวจอย่างละเอียด
ด้านกงสุลเม็กซิโกที่ถูกจุดไฟเผา สามารถดับได้อย่างรวดเร็วโดยไม่มีความเสียหายเป็นวงกว้าง แต่ความเสียหายที่ศาลหสรัฐฯและสำนักงานใหญ่ตำรวจกลับเสียหายหนัก ซึ่งเอบีซีรายงานว่า พบเจ้าหน้าที่เคลื่อนย้ายถังแก๊สขนาดเล็กออกไปจากที่เกิดเหตุร่วม 12 ถัง ซึ่งคาดว่าจะถูกใช้เพื่อระเบิดกงสุลเม็กซิโก