เอเอฟพี - ตำรวจไนจีเรียยิงแก๊สน้ำตาภายในที่ทำการรัฐสภาเมื่อวันพฤหัสบดี (20 พ.ย.) ในความพยายามขัดขวาง ส.ส.ฝ่ายค้าน ในนั้นรวมถึงประธานสภาผู้แทนราษฎรเข้าไปยังตัวอาคารเพื่อร่วมประชุมลงคะแนนญัตติสำคัญเกี่ยวกับความมั่นคง
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมีกำหนดลงมติในญัตติหนึ่งที่รัฐบาลยื่นคำร้องขอขยายกรอบเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ถูกพวกนักรบโบโกฮารัมเล่นงานหนักหน่วงที่สุด แต่ฝ่ายค้านต่อต้านความเคลื่อนไหวดังกล่าว ท่ามกลางความตึงเครียดทางการเมืองโหมกระพือรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ก่อนศึกเลือกตั้งทั่วไปในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้ากำลังมาถึง
ประธานาธิบดีกูดลัค โจนาธาน บอกว่าจำเป็นต้องขยายประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อสนับสนุนปฏิบัติการทางทหารต่อโบโกฮารัม แต่พรรคฝ่านค้านหลัก พรรคสภาก้าวหน้าตราหน้าว่านโยบายนี้ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง ขณะเดียวกัน พวกนักรบกลับรุกคืบหนักหน่วงขึ้นนับตั้งแต่มันถูกบังคับใช้ครั้งแรกในเดือนพฤษภาคม 2013
ปฏิบัติการอันก้าวร้าวของตำรวจดูเหมือนจะพุ่งเป้าไปที่นายเอมินู ทัมบูวัล ประธานสภาผู้แทนราษฎรที่ก่อความโกรธแค้นแก่พรรคประชาชนประชาธิปไตย (พีดีพี) พรรครัฐบาล หลังแปรพักตร์ไปฝักใฝ่ฝ่ายค้านเมื่อเดือนที่แล้ว
โฆษกเผยว่า ทัมบูวัล เดินทางมาถึงที่ทำการรัฐสภาตอนเวลา 10.00 น.(ตรงกับเมืองไทย 16.00 น.) ก่อนการโหวตลงคะแนนขยายเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน จากนั้นเขาและ ส.ส.รายอื่นๆ อีก 40 คน ได้เคลื่อนพลมุ่งตรงไปยังประตูหลักของอาคารรัฐสภา แต่ก็ถูกตำรวจพยายามขัดขวางไว้
แม้ว่าขบวนของ ส.ส.จะฝ่าแนวกั้นของตำรวจไปได้ แต่เจ้าหน้าที่ได้ปิดประตูทางเข้า ทำให้เหล่า ส.ส.ต้องออกแรงช่วยกันผลักจนผ่านเข้าไปข้างในได้สำเร็จ ท่ามกลางสายตาของตำรวจที่ยืนมองดูจากอีกฝั่ง จากนั้นทั้งหมดรวมถึงนายทัมบูวัลก็มุ่งตรงไปยังอาคารรัฐสภา
“ตอนที่เราไปถึงอาคารรัฐสภา พวกเขายืนกรานว่าไม่อนุญาตให้ ทัมบูวัล เข้าไปในห้องประชุม พวกเขาใช้แก๊สน้ำตากับประธานรัฐสภาและ ส.ส.คนอื่นๆ ทุกอย่างเต็มไปด้วยความสับสน” โฆษกระบุ
ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ล็อบบี้หลักบริเวณด้านนอกห้องประชุมสภาผู้แทนราษฏรเต็มไปด้วยแก๊สน้ำตาลอยคละคลุ้ง โดยพวกที่อยู่บริเวณนั้นต่างหายใจไม่ออกและพยายามหาทางออกมาด้านนอก
นายมาร์ก ประธานวุฒิสภาบรรยายสถานการณ์ว่าเต็มไปด้วยความยุ่งเหยิงและเป็นเหตุการณ์โชคร้ายอย่างยิ่ง ก่อนสั่งเลือนการประชุมของทั้งสองสภาออกไปเป็นวันอังคารหน้า (25 พ.ย.) นั่นหมายความว่าคำขอขยายประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินของประธานาธิบดีโจนาธานจะไม่ได้รับเห็นชอบภายในสัปดาห์นี้แน่นอนแล้ว