เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - คิม ฮัน-ซิก (Kim Han-Sik) วัย 71 ปี ประธานกรรมการบริหารบริษัทชองแฮจิน มารีน เจ้าของเรือเฟอร์รีเซวอลถูกศาลเกาหลีใต้สั่งจำคุกเป็นเวลา 10 ปีในวันพฤหัสบดี (20 พ.ย.) หลังจากถูกตั้งข้อกล่าวหาฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาในเหตุเรือโดยสารเซวอลล่มที่สังหารผู้โดยสารเกือบ 300 คนที่ส่วนใหญ่เป็นนักเรียนมัธยมปลาย โดยคำตัดสินออกมาหลังจากเมื่อวานนี้ (19) รัฐบาลเกาหลีใต้ได้ตั้งกระทรวงความปลอดภัยสาธารณะเกาหลีใต้ขึ้นใหม่ หลังจากก่อนหน้านั้นประธานาธิบดีหญิงแห่งเกาหลีใต้ พัค กึน-ฮเย ประกาศยกเครื่องมาตรฐานความปลอดภัยครั้งใหญ่รับวิกฤตที่อาจเกิดคล้ายเหตุการณ์เรือเซวอลล่ม
ผู้พิพากษาศาลเมืองกวางจู (Gwangju) ทางใต้ของเกาหลีใต้พิจารณาแล้วเห็นว่า คิม ฮัน-ซิก (Kim Han-Sik) ประธานกรรมการบริหารบริษัทเดินเรือชองแฮจิน มารีน จำกัด อนุมัติให้เรือเฟอร์รีที่อยู่ในสังกัดสามารถรับผู้โดยสารได้เกินกำหนด และยังแอบดัดแปลงตัวเรือเพื่อจะทำให้เรือเฟอร์รีลำนี้สามารถรับผู้โดยสารได้เพิ่มมากขึ้น
เรือเฟอร์รีเซวอลน้ำหนัก 6,825 ตัน ได้ขนคนทั้งหมด 476 คน ที่ส่วนใหญ่เป็นเด็กนักเรียนมัธยมปลายเพื่อไปทัศนศึกษา ซึ่งในขณะเกิดเหตุเรือโดยสารอยู่ในสภาพรับน้ำหนักมากกว่าที่กำหนด และสูญเสียการควบคุม โดยศาลเมืองกวางจูได้ประนามลูกเรือที่บังคับเรือโดยสารลำนี้ว่า “ไม่มีความสามารถ” และเป็นผลทำให้เซวอลล่มนอกฝั่งทางใต้ของประเทศในวันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา
คิม วัย 71 ปี ถูกตัดสินว่ามีความผิดจากการที่อนุญาตให้เรือเฟอร์รีเซวอลสามารถบันทุกสินค้าบนเรือได้เกินกำหนดมาตรฐานความปลอดภัย
ทั้งนี้ มีจำเลยอีก 10 คน รวมถึง 6 คนที่เกี่ยวข้องกับบริษัท ชองแฮจิน มารีน ขึ้นศาลพร้อมกับคิมวันนี้ (20) และหลังการพิพากษาพบว่า มีจำเลย 1 คนถูกตัดสินไม่มีความผิด แต่ในส่วนที่เหลืออีก 9 คนถูกพิพากษาจำคุกตั้งแต่รอลงอาญาไปจนถึงจำคุกเป็นเวลา 6ปี
ในการขึ้นศาล ซีอีโอบริษัทเดินเรือชองแฮจิน มารีนวัย 71 ปี ปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่าถึงความรับผิดชอบในบริษัทเดินเรือแห่งนี้ โดยอ้างว่าเขาเป็นเพียงลูกจ้างรายเดือนของบริษัทภายใต้การกำกับของเจ้าของบริษัท ยู บยุง-อึน(Yoo Byung-Eun) ที่คิมให้การว่า “มีความรับผิดชอบและเกี่ยวข้องโดยตรงในการบริหารบริษัทเดินเรือแห่งนี้”
นอกจากนี้ คิมยังถูกตัดสินจากข้อหายักยอกทรัพย์ร่วม 2.6 ล้านดอลลาร์จากบริษัทชองแฮจิน มารีนในช่วงเวลา 4 ปีล่าสุด และผ่องถ่ายต่อไปให้ ยู บยุง-อึน เจ้าของบริษัทและสมาชิกครอบครัวของยู ซึ่งหลังจากเกิดโศกนาฎกรรมเรือเซวอล ยูกลายเป็นผู้ที่ทางการเกาหลีใต้ต้องการตัวมากที่สุด
แต่หลังจากนั้นในเดือนมิถุนายน มีการพบร่างที่เปื่อยเน่าของยูหมกอยู่ในสวน แต่นิติวิทยาศาสตร์เกาหลีใต้ไม่สามารถหาสาเหตุการเสียชีวิตของชายผู้นี้ได้
ในขณะที่ลูกชายคนโตของยู ยู แด-คยุน (Yoo Dae-Kyun) ถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 3 ปีในต้นเดือนนี้ในข้อหายักยอกทรัพย์ และเช่นเดียวกับภรรยาม่ายของยู ที่กำลังเผชิญหน้ากับการตัดสินในคดียักยอกทรัพย์เช่นเดียวกับบุตรชาย
และในสัปดาห์ที่ผ่านมา กัปตันเรือโดยสารเฟอร์รีเซวอล ลี จุน-ซุก ถูกตัดสินโทษหนักจำคุก 36 ปี จากความผิดประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง ละเลยหน้าที่ รวมถึงทอดทิ้งผู้โดยสารเรือหลายร้อยคนที่ยังติดอยู่ภายในเรือโดยสารให้เผชิญหน้ากับหายนะตามลำพัง
แต่ทนายฝ่ายจำเลยฝ่ายลีแย้งว่า บริษัทเดินเรืองชองแฮจิน มารีนนั้นมีความรับผิดชอบต่อเหตุโศกนาฐกรรมมากที่สุด เพราะเป็นตัวการสั่งให้ปรับเปลี่ยนเรือเฟอร์รีเซวอลให้รับผู้โดยสารได้มากขึ้น รวมไปถึงอนุญาตให้ขนสินค้าขึ้นเรือเกินกว่ากำนดตามมาตรฐานความปลอดภัย
คำพิพากษาครั้งนี้ออกมา 1 วันหลังจากมีการประกาศจัดตั้งกระทรวงควบคุมความปลอดภัยสาธารณะแห่งเกาหลีใต้ขึ้นใหม่ ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนการรับมือของรัฐบาลเกาหลีใต้ในวิกฤตเรือเฟอร์รีเซวอลล่ม และเป็นผลทำให้มีการออกคำสั่งยุบหน่วยงานยามฝั่งเกาหลีใต้ และสั่งการให้แยกความรับผิดชอบดูแลความปลอดภัยทางน้ำระหว่างกระทรวงที่ตั้งขึ้นใหม่และสำนักงานตำรวจแห่งชาติเกาหลีใต้
เดลีเมล์ สื่ออังกฤษรายงานเมื่อวานนี้ (19) ว่า จากรายงานของกระทรวงกิจการภายในเกาหลีใต้ระบุว่า กระทรวงควบคุมความปลอดภัยขนส่งทางน้ำแห่งเกาหลีใต้แห่งใหม่มีเจ้าหน้าที่ในสังกัด 10,045 คน ถือว่ามีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของกระทรวงทั้งหมดในโสมขาว
ในช่วงหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ซึ่งมีความรับผิดชอบในเหตุการณ์ถูกตำหนิว่าล่าช้า ไม่ประสานงาน และไม่สามารถตัดสินใจแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ ทำให้ประธานาธิบดีหญิงแห่งเกาหลีใต้ พัค กึน-ฮเย ประกาศที่จะดำเนินการยกเครื่องระบบมาตรฐานความปลอดภัยของเกาหลีใต้ใหม่ทั้งหมด
