เอพี/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-พันโท อิซาค ยากูบา ซิดา ผู้นำการทำรัฐประหารในบูร์กินาฟาโซ ได้รับเลือกในวันพุธ (19 พ.ย.) ให้ก้าวขึ้นรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของประเทศ ก่อให้เกิดคำถามว่า กองทัพบูร์กินาฟาโซอาจไม่ยอมถอยห่างจากการเมือง ตามข้อเรียกร้องของประชาคมระหว่างประเทศ
การเลือกพันโท อิซาค ยากูบา ซิดาวัย 49 ปีให้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเกิดขึ้นเพียง 1 วันหลังจากที่สหรัฐอเมริกา และประชาคมโลกออกโรงแสดงความชื่นชมบูร์กินาฟาโซที่เลือกเดินหน้าตั้ง “รัฐบาลพลเรือน” เข้ามาบริหารประเทศในช่วงเปลี่ยนผ่าน
ก่อนหน้านี้ทางกองทัพซึ่งเข้าควบคุมอำนาจการปกครองประเทศเมื่อวันที่ 31 ตุลาคมได้เลือกพันโทซิดาให้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำสูงสุดของประเทศในช่วงสูญญากาศทางการเมือง แต่ต้องเผชิญแรงกดดันจากประชาคมโลกที่ขู่จะคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจหากกองทัพบูร์กินาฟาโซไม่ยอมมอบอำนาจในการบริหารประเทศกลับคืนตามครรลองประชาธิปไตย
เมื่อวันอังคาร (18 พ.ย.) มิเชล กาฟองโด อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศบูร์กินาฟาโซซึ่งถือเป็นนักการทูตมากประสบการณ์ ทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของประเทศ เพื่อรับความท้าทายสำคัญในการจัดการเลือกตั้งครั้งใหม่ภายใน 1 ปี เพื่อคืนประชาธิปไตยให้กับดินแดนแอฟริกาตะวันตกแห่งนี้หลังเกิดการรัฐประหาร โดยกองทัพ
โดยกาฟองโด ในวัย 72 ปี ซึ่งสำเร็จการศึกษาจากฝรั่งเศส ได้ยอมรับเงื่อนไขในการครองอำนาจเป็นการชั่วคราว และปฏิเสธที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งในปีหน้าต้องแต่งตั้งบุคคลที่มีความเหมาะสมจำนวน 25 คน เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีเพื่อบริหารประเทศในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่าน
การสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของกาฟองโดเมื่อ 48 ชั่โมงก่อนมีขึ้นหลังจากที่ ประธานาธิบดีแบลส กองปาโอเร ผู้นำวัย 63 ปีที่ครองอำนาจแบบผูกขาดมาตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี ค.ศ.1987 ตัดสินใจสละอำนาจ และลี้ภัยออกนอกประเทศเมื่อ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา หลังพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้ตัวเองได้ครองอำนาจต่อ จนเผชิญการลุกฮือขับไล่ของประชาชนซึ่งตามมาด้วยการเข้ายึดอำนาจของกองทัพในเวลาต่อมา