เอเอฟพี/รอยเตอร์/มาร์เก็ตวอตช์ - ราคาน้ำมันฟื้นตัวและทองคำพุ่งแรงกว่า 24 ดอลลาร์วานนี้(14พ.ย.) หลังพบข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯและยูโรโซนแข็งแกร่งกว่าคาดหมาย แต่วอลล์สตรีททรงตัวในกรอบแคบๆ ท่ามกลางความกังวลต่อตลาดเชื้อเพลิงและความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 1.61 ดอลลาร์ ปิดที่ 75.82 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลดอนดอน งวดส่งมอบเดือนมกราคม ปิดที่ 1.92 ดอลลาร์ ปิดที่ 79.41 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ตลาดน้ำมันได้แรงหนุนจากข้อมูลทางเศรษฐกิจจากทั้งสองฟากฝั่งของมหาสมุทรแอตแลนติก บ่งชี้ว่าอุปสงค์ทางพลังงานน่าจะยังแข็งแกร่งอยู่
ในสหรัฐฯ ชาติผู้บริโภครายใหญ่ที่สุดของโลก พบยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 ในเดือนตุลาคม ฟื้นตัวจากเดือนที่แล้วซึ่งปรับลดลง ขณะเดียวกันเศรษฐกิจ 18 ชาติสมาชิกยูโรโซน ขยายตัวร้อยละ 0.2 ในช่วงไตรมาส 3 ดีกว่าที่คาดหมายไว้ร้อยละ 0.1 และขยายตัวจากช่วงไตรมาส 2 ร้อยละ 0.1 เช่นกัน
ปัจจัยนี้เองส่งผลให้ราคาทองคำในวันศุกร์(14พ.ย.) ปิดบวกแรง ฟื้นตัวจากที่ขยับลงอย่างต่อเนื่องเมื่อเร็วๆนี้ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 24.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,185.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(14พ.ย.) แกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบๆ ก่อนปิดทรงตัว ขณะที่นักลงทุนตรึกตรองข้อมูลทั้งด้านบวกและลบ
ดาวโจนส์ ลดลง 18.05 จุด (0.10 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17,634.74 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 0.49 จุด (0.02 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,039.82 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 8.40 จุด (0.18 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,688.54 จุด
นักวิเคราะห์กล่าวว่าแม้ข้อมูลทางเศรษฐกิจในช่วงท้ายของการซื้อขาย ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นมิตรกับตลาดทุน เนื่องจากออกมาในด้านบวก แต่อีกด้านหนึ่งตลาดก็ยังกังวลต่อราคาน้ำมันที่ผันผวน เช่นเดียวกับความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ต่างๆ