ฉุนผู้ดีไม่ยื่นมือช่วยเหลือ "ม็อบฮ่องกง" เตรียมปิดถนนรอบสถานกงสุลอังกฤษ

เอเอฟพี - บรรดานักศึกษาที่ชุมนุมประท้วงอยู่ในฮ่องกงมีแผนที่จะไปปิดถนนบริเวณรอบสถานกงสุลอังกฤษ เนื่องจากโกรธที่ไม่มีแรงสนับสนุนจากลอนดอนมาช่วยเหลือพวกเขาเลย ขณะที่ทางการเกาะฮ่องกงกำลังกดดันผู้ชุมนุมให้กลับบ้าน

ฝ่ายบริหารเกาะฮ่องกงได้เรียกร้องให้กลุ่มผู้ประท้วงออกจากพื้นที่การชุมนุม หลังจากการประท้วงดังกล่าวได้ทำให้หลายพื้นที่ของฮ่องกงต้องกลายเป็นอัมพาตมานานกว่า 6 สัปดาห์แล้ว

สื่อท้องถิ่นรายงานว่า ตำรวจได้รับมอบอำนาจเมื่อวันจันทร์ ในการเข้าเคลียร์แนวป้องกันของผู้ชุมนุม ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการได้ในอีกไม่กี่วัน โดยมีเจ้าหน้าที่หลายพันนายถูกจัดวางกำลังเตรียมพร้อมเอาไว้ตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

แต่ถึงกระนั้น บรรดาผู้ประท้วงก็ดูจะยังไม่สะทกสะท้านกับความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ ทั้งยังมีการติดโปสเตอร์ไว้ในบริเวณรอบพื้นที่การชุมนุม แจ้งข่าวว่าจะไปปิดถนนโดยรอบสถานกงสุลอังกฤษในวันที่ 21 พฤศจิกายนนี้ ขณะที่บนหน้าเพจเฟซบุ้คของการชุมนุมก็มีผู้กดไลค์กิจกรรมนี้ประมาณ 700 คน

ผู้จัดกิจกรรมนี้ระบุว่า พวกเขาต้องการแสดงให้เห็นถึงความไม่พอใจที่มีต่ออังกฤษ สำหรับการที่ไม่ยอมต่อต้านจีนที่ละเมิดข้อตกลง เรื่องที่จะต้องปกป้องสังคมและวิถีชีวิตของผู้คน ซึ่งทั้งสองประเทศได้ทำร่วมกันไว้ก่อนส่งมอบเกาะฮ่องกงคืนให้กับจีนในปี 1997

"เราไม่พอใจที่รัฐบาลอังกฤษทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น ว่าจีนได้ละเมิดข้อตกลงที่ทำร่วมกันเอาไว้ด้วยการเข้ามาแทรกแซงการเมืองของเกาะฮ่องกง" แอนนา-เคท ชอย ผู้ร่วมจัดกิจกรรมปิดถนนรอบสถานกงสุลอังกฤษบอกกับเอเอฟพี

"พวกเขามีหน้าที่รับผิดชอบที่จะต้องทำให้ข้อตกลงร่วมกันนั้นถูกดำเนินการอย่างเหมาะสม รวมถึงปกป้องคุ้มครองประชาธิปไตยและการปกครองตนเองของฮ่องกงเอาไว้" ชอยกล่าว

เธอคาดหวังว่ากิจกรรมนี้จะมีผู้เข้าร่วมหลายร้อยหรืออาจจะหลายพันคน โดยมีเหล่านักเรียนมัธยมเป็นหัวหอกในกิจกรรมประท้วงครั้งนี้ ขณะที่สถานกงสุลอังกฤษยังไม่แสดงความเห็นใดๆ ต่อความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้

โปสเตอร์ของกิจกรรมนี้ มีข้อความระบุว่า "จีนละเมิดข้อตกลงที่ทำร่วมกัน รัฐบาลอังกฤษจะต้องตอบโต้เดี๋ยวนี้" พร้อมกับสัญลักษณ์ร่มที่มีลวดลายแบบธงสหราชอาณาจักร

อังกฤษและจีนได้ลงนามข้อตกลงร่วมกันในปี 1984 ที่จะให้ใช้หลักการ "หนึ่งประเทศ สองระบบ" เพื่อที่จะคงไว้ซึ่งระบบทุนนิยมและวิถีชีวิตของชาวฮ่องกงไปจนถึงปี 2047 โดยมีการระบุว่า ระบบสังคมและเศรษฐกิจในฮ่องกง รวมถึงวิถีชีวิตของผู้คนจะต้องไม่ถูกเปลี่ยนแปลง

นายกรัฐมนตรีอังกฤษ "เดวิด คาเมรอน" เคยบอกว่า เขาเป็นกังวลอย่างมากเกี่ยวกับความรุนแรงที่เพิ่มขึ้น หลังจากที่ตำรวจฮ่องกงได้ใช้แก๊สน้ำตาเข้าสลายผู้ชุมนุมเมื่อช่วงปลายเดือนกันยายน แต่ถึงกระนั้น บรรดาผู้ชุมนุมก็ยังคงรู้สึกว่าอังกฤษแกล้งทำเป็นมองไม่เห็นว่าจีนกำลังริดรอนเสรีภาพของชาวฮ่องกง