รอยเตอร์ - พวกรัฐอิสลาม(ไอเอส) สั่งปิดโรงเรียนทุกแห่งในพื้นที่ต่างๆที่พวกเขายึดครองทางภาคตะวันออกของซีเรีย จนกว่าจะมีการทบทวนหลักสูตรการเรียนการสอนทางศาสนา ชาวบ้านและกลุ่มสังเกตการณ์บอกในวันศุกร์(7พ.ย.)
ไอเอสกำลังเพิ่มความเข้มข้นของกฎระเบียบต่างๆที่บังคับใช้กับชีวิตพลเรือนในจังหวัดดีร์ อัล-ซูร์ ซึ่งตกอยู่ภายใต้การครอบครองของนักรบอิสลามิสต์เกือบจะสมบูรณ์แล้ว แม้ว่าทางรัฐบาลยังคงควบคุมฐานทัพอากาศแห่งหนึ่งและพื้นที่เล็กๆอื่นๆอยู่ก็ตาม
องค์กรสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนซีเรีย ซึ่งมีสำนักงานในกรุงลอนดอน เผยว่าคำแถลงดังกล่าวมีออกมาในวันพุธ(5พ.ย.) หลังจากพวกไอเอสจัดการประชุมกับเหล่าคณะผู้บริหารของโรงเรียนต่างๆ ณ มัสยิดท้องถิ่นแห่งหนึ่ง รอบนอกเมืองดีร์ อัล-ซูร์
"นักรบรัฐอิสลามแจ้งกับพวกเขาว่าคณะครูควรผ่าตัดวิชาศาสนาภายในเวลา 1 เดือนและเวลานี้เจ้าหน้าที่ของรัฐอิสลามกำลังพัฒนาหลักสูตรใหม่แทนการศึกษานอกรีตที่มีอยู่ในปัจจุบัน" องค์กรสังเกตการณ์ระบุในถ้อยแถลง
ก่อนหน้านี้ช่วงต้นปีการศึกษาในเดือนกันยายน พวกไอเอสได้แก้ไขหลักสูตรการเรียนการสอนของโรงเรียนต่างๆในพื้นที่ควบคุม โดยสั่งยกเลิกวิชาฟิสิกส์กับเคมี และส่งเสริมการเรียนการสอนอิสลามแทน
ความเคลื่อนไหวของพวกเขามีเป้าหมายคือลดชั่วโมงการเรียนการสอนในโรงเรียน เพื่อเพิ่มการเรียนรู้ทางศาสนาและยกเลิกเนื้อหาสาระเชิงวิชาการ "พวกเขาแถลงว่าจะสอนแค่วิชาศาสนาเท่านั้นและคณิตศาสตร์อีกเล็กน้อย แม้แต่สูตรคูณก็ไม่มีการเรียนการสอน" อาบู ฮุสเซน อัล เดรี นักเคลื่อนไหวกล่าว
ชาวบ้านบางส่วนไม่เห็นด้วยกับการปิดโรงเรียน โดยวิดีโอที่นักเคลื่อนไหวโพสต์ลงบนโลกออนไลน์ พบเห็นเด็กหญิงและเด็กชายอายไม่เกิน 12 ขวบ จำนวนหลายสิบคน เดินขบวนพร้อมครูสตรีคนหนึ่ง พร้อมตะโกนว่า "เราต้องการเรียนหนังสือ"
อย่างไรก็ตามนักเคลื่อนไหวบอกว่าบรรยากาศการประท้วงเป็นไปอย่างเงียบเชียบ เพราะประชาชนส่วนมากรู้สึกกลัวเกินกว่าที่จะออกมาชุมนุม เนื่องจากพวกรัฐอิสลาม กักขัง ประหารชีวิตและฆ่าตัดคอผู้คนไปหลายร้อยศพในเมืองดีร์ อัล-ซูร์ ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ฐานผละหนีศาสนา คดีอาญาที่พวกเขาใช้กล่าวโทษทุกคนที่ไม่เชื่อฟังและต่อต้านรัฐอิสลาม