เอเจนซีส์/เอเอฟพี - เมื่อวานนี้(30)ผู้ว่าการรัฐเมน พอล ลีเพจ (Paul LePage) แถลงยอมรับว่า การเจรจาระหว่างรัฐเมนและกับ คาซี ฮิกค็อก (Kaci Hickox) พยาบาลที่ฝ่าฝืนคำสั่งกักกันโรคของรัฐโดยการเดินทางออกนอกที่พักเพื่อปั่นจักรยาน ซึ่งเธออ้างว่าจะไม่ยอมให้รัฐเมนล่วงละเมิดสิทธิพลเรือนของเธอได้ และในวันเดียวกันสหภาพพยาบาลอเมริกัน National Nurse United (NNU)ได้ประกาศแผนการผละงานทั่วสหรัฐฯ เพื่อเรียกร้องให้มีมาตรการรับมืออีโบลาที่เข้มงวดกว่านี้เพื่อความปลอดภัยสำหรับเจ้าหน้าที่การแพทย์
วอลสตรีทเจอร์นัล รายงานเมื่อวานนี้(30)ว่า ผู้ว่าการรัฐเมน พอล ลีเพจ (Paul LePage)ประกาศจะใช้มาตรการที่เข้มงวดทางกฏหมายมากขึ้นตอบโต้การท้าทายของคาซี ฮิกค็อก (Kaci Hickox) พยาบาลที่เพิ่งกลับมาจากกลุ่มประเทศระบาดโรคอีโบลาหลังจากที่เธอได้ทำงานเป็นอาสาสมัครที่นั่น
แต่กระนั้นลีเพจไม่เปิดเผยถึงวิธีการตอบโต้ทางกฏหมายวิธีใดที่จะนำมาใช้ โดยเขาแถลงเพียงว่า เขายอมผ่อนปรนให้ฮิกค็อก วัย 33 ปี สามารถเดินเล่นได้ภายนอก ปั่นจักรยาน หรือออกนอกที่พักซึ่งตั้งอยู่นอกเมืองทางเหนือของรัฐเมนได้ ตราบเท่าที่ฮิกค็อกยังหลีกเลี่ยงที่ชุมชน หรือเข้าใกล้ผู้อื่นในระยะ 3 ฟุต
แถลงการณ์ของลีเพจออกมาหลังจากพบว่า ฮิกค็อกท้าทายคำสั่งกักกันโรคในที่พักเป็นเวลา 21 วันของเขาด้วยการออกนอกที่พัก เพื่อปั่นจักรยานออกกำลังกายในช่วงเช้าพฤหัสบดี(30)
เอบีซีนิวส์ได้อ้างคำพูดของลีเพจว่า เขาพิจารณาทางเลือกจะเดินทางไปศาลเพื่อร้องขอให้ศาลออกคำสั่งบังคับให้ฮิกค็อกตรวจเลือดเพื่อแลกเปลี่ยนกับคำสั่งกักกัน แต่ภายหลังในแถลงการณ์ที่ออกมา เพจลียังไม่ระบุชัดว่าจะใช้วิธีใดเนื่องจากกฎหมายปกป้องสิทธิส่วนบุคคลห้ามไว้
ลีเพจยืนยันว่า เขามีทางเลือกมากมายและมีอำนาจในมือที่จะจัดการรับมือภัยคุกคามต่อสุขภาพของประชาชนรัฐเมน
ทั้งนี้ฮิกค็อกยืนยันว่า เธอไม่มีล้มป่วย และไม่มีอาการที่บ่งชี้ว่าเธออาจมีเชื้ออีโบลา แต่รัฐเมนต้องการให้ฮิกค็อกยังคงอยู่แต่ภายในที่พักของตนเองจนกระทั่งวันที่ 10 พฤศจิกายน
ภาพข่างทางสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นในเมนแสดงภาพรถตำรวจประจำรัฐขับตามฮิกค็อกและแฟนหนุ่มของเธอที่กำลังปั่นจักรยานในถนนเงียบสงบในฟอร์ต เคนต์ เมืองเล็กๆที่ส่วนใหญ่จะทำการเกษตรไร่ปลูกมันฝรั่งไม่ห่างจากพรมแดนแคนาดาเท่าใดนัก ซึ่งเป็นเมืองที่คนทั้งคู่อาศัย
และภายหลังในการให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ ลีเพจอ้างว่าตำรวจตามประกบฮิกค็อกเพื่อความปลอดภัยของเธอเอง “พฤติกรรมของเธอทำให้หลายคนรู้สึกไม่พอใจ” โดยผู้ว่าการรัฐเมนที่มาจากพรรครีพับลิกันยอมรับในการปั่นจักรยานของฮิกค็อก แต่เขายังหวังว่าพยาบาลวัย 33 นี้จะกักกันตัวเองให้อยู่แต่ในบ้านพัก “ผมไม่ต้องการให้เธอเข้าใกล้ใครในระยะ 3 ฟุต และถ้าฮิกค็อกไม่ทำเช่นนั้น ผมจะใช้มาตรการตามกฎหมายขั้นสูงสุดที่จะทำได้เพื่อให้เธอปฎิบัติตาม และผมหวังว่าเธอจะพิจารณาทางเลือกกักกันตัวเอง” ลีเพจกล่าว
ในขณะเดียวกัน สหภาพพยาบาลสหรัฐฯ National Nurse United (NNU) ออกแถลงการณ์เมื่อวานนี้(30) เรียกร้องให้พยาบาลทั่วสหรัฐฯนัดผละงานพร้อมกันในระหว่างวันที่ 11-12 พฤศจิกายน เพื่อเรียกร้องให้มีมาตรการรัดกุมขึ้นเพื่อปกป้องชีวิตของเจ้าหน้าที่การแพทย์ในกระแสโรคอีโบลาระบาดหนัก
เอเอฟพีรายงานว่า คาดว่าจะมีพยายาลจากรัฐแคลิฟอร์เนียราว 50,000 คน และอีก 100,000 คนจากทั่วสหรัฐฯ เดเบอร์ราห์ เบอร์เกอร์ ประธานร่วมของ National Nurse United แถลง และเสริมว่า “ซึ่งจะเป็นการประท้วงผละงาน 2 วันด้วยกันที่มีพยาบาลวิชาชีพจำนวน 18,000 คนเข้าร่วม และพยาบาลชำนาญการพิเศษอีก 66 คน จากโรงพยาบาลและคลีนิกเครือข่ายไกเซอร์ ซึ่งการสไตรค์จะเกิดขึ้นที่โรงพยาลาลโปรวิเดนซ์ ในกรุงวอชิงตัน ดีซี และมีพยาบาลวิชาชีพ 400 คนเข้าร่วม”
โดย National Nurse United ต้องการให้ทุกโรงพยาบาลในสหรัฐฯบังคับใช้ “มาตรการป้องกันขั้นสูงสุด. รวมไปถึงการจัดหาอุปกรณ์ชุดแฮซแมตที่จะไม่เปิดเผยผิวของผู้ปฎิบัติงานในขณะที่ให้การรักษาผู้ป่วยอีโบลา รวมไปถึงระบบฟอกอากาศเพื่อฆ่าเชื้อ
นอกจากนี้ยังมีการเรียกร้องให้ยังคงมีการฝึกที่เข้มข้นเพื่อให้เจ้าหน้าที่รับมือกับผู้ป่วยอีโบลาได้ทันท่วงที รวมไปถึงการฝึกใส่และถอดชุดแฮซแมตด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตามแถลงการณ์สหภาพระบุว่า โรงพยาบาลที่ได้รับผลกระทบจากการผละงานจะได้รับคำเตือนล่วงหน้า 10 วันก่อนที่การสไตรค์จะเกิดขึ้น
