เอเจนซีส์ - สำนักงานจัดการภัยพิบัติแห่งชาติศรีลังกาออกแถลงการณ์เมื่อวานนี้(30)ถึงจำนวนผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์โคลนถล่มในแหล่งปลูกชามีริยาเบดดา (Meeriyabedda)ที่เกิดขึ้นในวันพุธ(29)ต่ำกว่าที่คาดไว้แต่แรก แต่ชาวบ้านในพื้นที่กลับคิดว่าตัวเลขนั้นสูงถึง 200 คน
เดอะ นิวยอร์กไทม์ส สื่อสหรัฐฯ และเดลีเมล สื่ออังกฤษ รายงานเมื่อวานนี้(30)ว่า ถึงแม้สำนักงานจัดการภัยพิบัติแห่งชาติศรีลังกจะประเมินว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตจะต่ำกว่าที่คาดไว้แต่แรก แต่กระนั้นดูเหมือนตัวเลขผู้เสียชีวิตจะยังคงเพิ่มขึ้นจากความพยายามในปฎิบัติการกู้ภัยที่ยังดำเนินต่อไป และชาวบ้านที่เฝ้ามองดูเจ้าหน้าที่กู้ภัยทำงานได้ยืนยันว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตไม่น่าจะน้อยกว่า 200 คน
Pradeep Kodippili เจ้าหน้าที่สำนักงานจัดการภัยพิบัติแห่งชาติศรีลังกากล่าวว่า ค้นพบศพผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 3 ศพ ไม่ใช่ 6 ศพอย่างที่ได้แถลงไว้ในวันพุธ(29) และเชื่อว่ามีผู้สูญหายราว 192 คนไม่ใช่มีมากถึง 300 คนอย่างที่คาดไว้แต่แรก
เจ้าหน้าที่กู้ภัยศรีลังกายังคงเดินหน้าค้นหาร่างผู้เสียชีวิตที่ถถูกฝังภายใต้โคลนที่กองทับถมอยู่ที่แหล่งปลูกชามีริยาเบดดา (Meeriyabedda)ในเขตบาดูลลา(Badulla) ซึ่งบ้านจำนวน 150 หลังถูกฝังอยู่ใต้โคลนถล่มในช่วงเช้าวันพุธ(29) ที่เกิดจากฝนมรสุมที่ตกก่อนหน้านั้น ทั้งนี้บ้านส่วนใหญ่ที่ได้รับความเสียหายเป็นที่อาศัยของคนงานที่ทำงานในแหล่งปลูกชา
นอกจากนี้ อูดายะ กุมารา (Udaya Kumara) เจ้าหน้าที่ประจำสำนักงานจัดการภัยพิบัติแห่งชาติศรีลังกาสาขาบาดูลลาได้เตือนชาวบ้านในพื้นที่ประสบเหตุว่าในคืนวันอังคาร(28)ถึงภัยโคลนถล่มที่มีความน่าจะเป็นว่าจะเกิดขึ้น
และเมื่อวานนี้(30)ประธานาธิบดีศรีลังกา มหินทะ ราชปักษา (Mahinda Rajapaksa ) เดินทางไปตรวจพื้นที่เกิดเหตุ และได้พูดคุยกับผู้รอดชีวิตที่ใช้โรงเรียน และศาสนสถานเป็นที่พักพิงชั่วคราว และจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของราชปักษา ผู้นำศรีลังกาสั่งการให้เร่งมือภารกิจกู้ภัยนี้ พร้อมให้ความช่วยเหลือผู้ประสบเหตุให้เร็วขึ้น
เจ้าหน้าที่กู้ภัยจำนวน 500 คนที่มาจากกองทัพศรีลังกาและเจ้าหน้าที่พลเรือนได้เริ่มต้นการค้นหาอีกครั้งในวันพฤหับดี(30)ช่วงเช้าหลังจากต้องหยุดลงในเวลากลางคืนเพราะฝนที่ตกหนัก ประกอบกับพื้นที่ซึ่งลื่นมากเป็นอุปสรรคต่อการทำงาน