เอเอฟพี/ASTVผู้จัดการ - กองทัพบูร์กินาฟาโซยึดอำนาจประธานาธิบดีแบลส กอมปาโอเร เมื่อวันพฤหัสบดี(30ต.ค.) หลังจากเกิดเหตุจลาจลผู้ประท้วงบุกปล้นสะดมและเผารัฐสภา ท่ามกลางความขุ่นแค้นต่อความพยายามแก้รัญธรรมนูญ เพื่อเปิดทางให้นำรายนี้อยู่ในอำนาจต่อไป หลังปกครองประเทศแห่งนี้มานาน 27 ปี
ก่อนหน้าการยึดอำนาจไม่นาน รัฐบาลบูร์กินาฟาโซต้องระงับแผนลงมติแก้ไขข้อจำกัดวาระดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี หลังจากประชาชนหลายร้อยคนทลายฝ่าแนวรักษาความปลอดภัยอันหนาแน่น เข้าไปยังอาคารสมัชชาแห่งชาติในกรุงวากาดูกู ปล้นสะดมสำนักงานต่างๆและวางเพลิงรถยนต์หลายคัน จากนั้นก็โจมตีสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ ก่อนเคลื่อนพลไปยังทำเนียบประธานาธิบดี แม้ตำรวจและทหารจำนวนมากถูกกระจายกำลังไปทั่วเมืองหลวงก็ตาม
ในการแถลงข่าวที่จัดเตรียมอย่างรีบเร่ง ทางกองทัพระบุในแถลงการณ์ที่ลงนามโดยพลเอกนาเบเร โฮโนเร ตราโอเร เสนาธิการทหารว่า พวกเขาได้ยึดอำนาจและให้สัญญาจะคืนสู่การปกครองภายใต้รัฐธรรมนูญภายใน 12 เดือน พร้อมกันนั้นยังกำหนดเคอร์ฟิวช่วงพระอาทิตย์ตกถึงรุ่งสาง ประกาศยุบสภาและรัฐบาล รวมถึงจัดตั้งคณะเปลี่ยนผ่านขึ้นมาบริหารประเทศ อย่างไรก็ตามไม่มีการพาดพิงถึงสถานะของประธานาธิบดีกอมปาโอเร
การเข้ายึดอำนาจของกองทัพมีขึ้นไม่กี่ชั่วโมง ตามหลังโฆษกประธานาธิบดี แถลงว่านายแบลส กอมปาโอเรประธานาธิบดีแห่งบูร์กินาฟาโซได้ประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศ
ประเทศแห่งนี้ตกอยู่ท่ามกลางความตึงเครียดมานานหลายวันท่ามกลางความพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญของเหล่าผู้แทน โดยก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ก็เพิ่งมีการชุมนุมใหญ่คัดค้าน จนตำรวจต้องกระจายกำลังล้อมรอบอาคารรัฐสภา และยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่ผู้ประท้วงจนเกิดการปะทะกันมาแล้ว
สหรัฐฯออกมาแสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อวิกฤตครั้งนี้และประณามความพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส่วนฝรั่งเศส ร้องขอความสงบและคัดค้านการใช้ความรุนแรงใดๆ ขณะที่สหภาพยุโรปเรียกร้องรัฐบาลล้มเลิกแผนแก้ไขข้อจำกัดวาระดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ที่อาจเป็นอันตรายต่อเสถียรภาพ พัฒนาการความเสี่ยงธรรมและกระบวนการประชาธิปไตยของบูร์กินาฟาโซ
มีชายคนหนึ่งเสียชีวิตในเหตุวุ่นวายครั้งนี้ที่ปะทุขึ้นก่อนหน้าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะมีกำหนดลงมติต่อร่างกฎหมายฉบับหนึ่งในวันพฤหัสบดี(30ต.ค.) ที่จะเปิดทางให้นายกอมปาโอเร ซึ่งก้าวเข้าสู่อำนาจจากรัฐประหารเมื่อปี 1987 ลงชิงชัยในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีอีกสมัยในปีหน้า
นายกอมปาโอเร มีอายุแค่ 36 ปี เมื่อตอนที่เขาก่อรัฐประหารเมื่อปี 1987 และเขาก็อยู่อำนาจมานับแต่นั้น โดยตั้งแต่ปี 1991เขาได้รับการเลือกตั้งกลับมานั่งเก้าอี้ผู้นำอีก 4 สมัย แบ่งเป็นสมัยที่มีวาระการดำรงตำแหน่ง 7 ปี 2 สมัยและ 5 ปีอีก 2สมัย ก่อนที่ปี 2005 จะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญจำกัดวาระการดำรงตำแหน่งและนายกอมปาโอเร กำลังนั่งเก้าอี้ผู้นำครบ 2 สมัยอีกไม่ช้านี้ ขณะที่ศึกเลือกตั้งครั้งต่อไปจะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2015
พวกฝ่ายต่อต้านกังวลว่าแผนแก้ไขรัญธรรมนูญ ไม่ใช่แค่การเปิดทางให้นายกอมปาโอเร กลับมาลงรับสมัครเลือกตั้งได้เพิ่มอีก 1 สมัย แต่อาจเลยเถิดไปถึง 3 สมัย ซึ่งนั่นเท่ากับว่าเขาจะอยู่ในอำนาจต่อไปอีก 15 ปี อย่างไรก็ตามพรรคใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ในรัฐสภา บอกว่าพวกเขาจะสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ ซึ่งจะช่วยให้รัฐสภามีเสียงข้างมาก 2 ใน 3 เพียงพอที่จะดำเนินการแก้ไขใดๆโดยไม่จำเป็นต้องจัดทำประชามติก่อน
ระหว่างเหตุจลาตลในวันพฤหัสบดี(30ต.ค.) กลุ่มควันสีดำลอยพวงพุ่งออกจากอาคารรัฐสภาผ่านหน้าต่างที่ถูกทุบกระจกจนแตก ด้วยพบเห็นสำนักงานหลายแห่งไฟลุกท่วม ในนั้นรวมถึงสำนักงานของประธานรัฐสภา แม้ดูเหมือนว่าห้องประชุมหลักจะไม่มีความเสียหายใดๆ
นอกจากนี้ผู้ประท้วงอีกหลายร้อยคนยังบุกเข้าไปยังสำนักงานหลายแห่งของสถานีโทรทัศน์แห่งชาติอาร์ทีบี ปล้นสะดมเครื่องไม้เครื่องมือและทุบทำลายรถยนต์ จากนั้นในเวลาต่อมาฝูงชนก็เดินขบวนไปใกล้ๆทำเนียบประธานาธิบดี แต่ถูกสกัดโดยทหารหน่วยคุ้มกันประธานาธิบดีที่ยิงปืนขึ้นสู่ท้องฟ้าเพื่อเป็นการขู่ ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่าศูนย์อำนวยการพรรครัฐบาลในเมืองโบโบ ดิเยาลาสโซ เมืองใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของบูร์กินาฟาโซ ห่างจากเมืองหลวงไปทางตะวันตกเฉียงใต้ 330 กิโลเมตร ก็ถูกจุดไฟเผาเช่นกัน