เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-โฆษกเพนตากอนยอมรับในวันพุธ (29 ต.ค.) ระบุ ปฏิบัติการโจมตีของสหรัฐฯต่อกลุ่มนักรบญิฮัดรัฐอิสลาม (Islamic State : IS) ประสบความ “ล้มเหลว”
จอห์น เคอร์บี โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (เพนตากอน) ออกมาแถลงที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. โดยยอมรับเป็นครั้งแรกว่าปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของสหรัฐอเมริกาและชาติพันธมิตรต่อกลุ่มไอเอสในซีเรีย รวมถึง หลายพื้นที่ของอิรักตลอดระยะเวลากว่า 5 สัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่สามารถหยุดยั้งการรุกคืบของกลุ่มไอเอส และล้มเหลวในการสร้างความสูญเสียอย่างสำคัญต่อกลุ่มนักรบญิฮัดดังกล่าว ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อสถาปนาการปกครองในรูปของรัฐอิสลามสุดโต่งในซีเรียและอิรัก
โฆษกเพนตากอนยังเปิดเผยด้วยว่า ปฏิบัติการโจมตีของสหรัฐฯและชาติพันธมิตรยังกลายเป็น “แรงดึงดูด” ให้มีผู้เข้าร่วมรบกับไอเอสมากยิ่งขึ้น
“ปฏิเสธไม่ได้ว่า ปฏิบัติการของเรามีส่วนผลักดันให้พวกไอเอสมีจำนวนสมาชิกเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม แต่รัฐบาลของเรากำลังทำงานอย่างหนักเพื่อรับมือกับภัยคุกคามนี้” โฆษกเพนตากอนกล่าว
ความเคลื่อนไหวล่าสุดที่เกิดขึ้นนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลบารัค โอบามา ออกมายอมรับอย่างเปิดเผยต่อสาธารณชนว่า ปฏิบัติการทางทหารที่ใช้เงินภาษีจำนวนมหาศาลของชาวอเมริกันต่อกลุ่มไอเอสนี้ ประสบความล้มเหลว
ทั้งนี้ ข้อมูลจากสำนักงานข่าวกรองกลางสหรัฐฯ (ซีไอเอ) ล่าสุด ยืนยันว่าปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐฯและชาติพันธมิตรต่อกลุ่มไอเอสที่เปิดฉากขึ้นตั้งแต่วันที่ 22 กันยายนที่ผ่านมานั้น สามารถสังหารสมาชิกกลุ่มไอเอสได้อย่างน้อย 464 คน รวมถึง สมาชิกกลุ่มอัลกออิดะห์อีก 57 คน
อย่างไรก็ดี มีการยืนยันว่า มีพลเรือนอย่างน้อย 32 คนในซีเรียและอิรักที่เสียชีวิตจากการโจมตีของสหรัฐฯ ทั้งการโจมตีที่พลาดเป้า รวมถึง การระบุเป้าสังหารผิดตัว
