xs
xsm
sm
md
lg

WHO ชี้ทั่วโลกสร้างความก้าวหน้ายิ่งใหญ่ในการต่อสู้ “วัณโรค” ยอดตายลดฮวบจากปี 90 ถึง 45%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเอฟพี - องค์การอนามัยโลก (WHO) แถลงในวันนี้ (22 ต.ค.) ว่า แม้ว่ายอดผู้ติดเชื้อวัณโรคที่มีการยืนยันจะเพิ่มสูงขึ้นในปีที่แล้ว แต่ก็ยังประสบความสำเร็จอย่างมากในการยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดต่อชนิดนี้

WHO แถลงว่า “ทั่วโลกประสบความสำเร็จในการยับยั้ง และป้องกันการติดเชื้อวัณโรคในทั้ง 6 ภูมิภาคที่ WHO ควบคุมดูแล (แอฟริกา เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยุโรป อเมริกา แปซิฟิกตะวันตก เมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก) และในประเทศส่วนใหญ่ในกลุ่มชาติที่มีอัตราผู้ติดเชื้อวัณโรคสูงทั้งหมด 22 ประเทศ ซึ่งเป็นเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษปี 2015”

กระนั้นก็ยังต้องใช้ความพยายามมากกว่านี้ โดย WHO ชี้ว่า “ยอดผู้เสียชีวิตจากโรคชนิดนี้ยังสูงเกินกว่าทีจะยอมรับได้”

องค์การอนามัยโลกระบุในรายงานประจำปี 2013 ว่า พบผู้ติดเชื้อวัณโรครายใหม่ 9 ล้านคน และเสียชีวิต 1.5 ล้านคนทั่วโลก โดยในจำนวนนี้มี 360,000 คนติดเชื้อเอชไอวีร่วมด้วย

แม้ว่ายอดผู้เสียชีวิตในปีที่แล้วจะเพิ่มขึ้นจากในปี 2012 แต่ก็เป็นเพราะไนจีเรีย ซึ่งเป็นชาติที่มีประชากรมากที่สุดในทวีปแอฟริกา และประเทศอื่นๆ บางประเทศเพิ่งเปิดเผยข้อมูลตัวเลขโดยละเอียดเป็นครั้งแรก

รายงานของ WHO ฉบับปีที่แล้วระบุว่า เมื่อปี 2012 พบประชากรประมาณ 8.6 ล้านคนทั่วโลก ติดเชื้อวัณโรค และเสียชีวิตไป 1.3 ล้านคน

สำหรับรายงานเมื่อล่าสุดนี้ระบุว่า “แม้ว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากวัณโรคมีจำนวนมากมายมหาศาลเช่นนี้ แต่ก็ถือว่าเราได้สามารถสร้างความก้าวหน้าอันยิ่งใหญ่แล้ว หลังจากการประกาศให้วัณโรคเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินทางสาธารณสุขทั่วโลกมานาน 21 ปี”

“นับตั้งแต่ปี 1990 อัตราการเสียชีวิตจากเชื้อวัณโรคทั่วโลก (อัตราการตายต่อประชากร 100,000 คนต่อปี) ได้ลดลงไป 45 เปอร์เซ็นต์ และการติดเชื้อวัณโรค (อัตราผู้ติดเชื้อรายใหม่ ต่อประชากร 100,000 คนต่อปี) กำลังลดลงในพื้นที่ส่วนใหญ่บนโลก

รายงานฉบับนี้ระบุเพิ่มเติมว่า “ในแต่ละปีวัณโรคได้ลดลงไปช้าๆ และมีการประมาณการว่า ในช่วงปี 2000 ถึง 2013 มีผู้ที่รอดชีวิตจากวัณโรคด้วยวิธีการวินิฉัยและรักษาที่มีประสิทธิภาพประมาณ 37 ล้านคน

นอกจากนี้ ข่าวดีอีกเรื่องหนึ่งคืออุปกรณ์วินิจฉัยโรคชนิดใหม่ ที่ทำให้สามารถรักษาคนไข้ได้เร็วขึ้น และมีการลงทุนในการวิจัยและพัฒนายารักษามากขึ้น

รายงานฉบับนี้ได้มุ่งประเด็นสำคัญไปที่การรณรงค์ต่อต้านวัณโรคดื้อยาหลายขนาน ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ต่อต้านยาปฏิชีวนะแถวหน้า และต้องใช้เงินมากมายในการรักษา

เมื่อปีที่แล้ว สัดส่วนผู้ติดเชื้อวัณโรคดื้อยาหน้าใหม่ยังเพิ่มขึ้นคงที่ในระดับ 3.5 เปอร์เซ็นต์ แม้ว่า “การดื้อยาระดับรุนแรง และผลการรักษาที่ไม่น่าพอใจจะเป็นประเด็นที่น่ากังวลอย่างมากในบางพื้นที่ของโลกใบนี้”

ในจำนวนผู้ติดเชื้อวัณโรครายใหม่เมื่อปีที่แล้ว พบว่าร้อยละ 24 อยู่ในอินเดีย และอยู่ที่จีนร้อยละ 11

1 ใน 4 อยู่ในทวีปแอฟริกา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ผู้ป่วยมีอัตราการตายสูงสุด

กำลังโหลดความคิดเห็น