เอเอฟพี - พอล แม็กคาร์ธีย์ ศิลปินชาวอเมริกันวัย 69 ปี กล่าววานนี้ (18 ต.ค.) ว่าประติมากรรมพองลมขนาดยักษ์ที่จุดประกายให้เกิดความโกรธเคืองในกรุงปารีสเนื่องจากมีรูปลักษณ์คล้าย “เซ็กซ์ทอย” จะไม่ถูกนำกลับมาจัดแสดงอีกครั้ง หลังถูกมือดีทำลายจนกลายสภาพเป็นพลาสติกเหี่ยวๆ
แม็กคาร์ธีย์ ถูกผู้ที่รู้สึกไม่พอใจประณามเหยียดหยาม ตอนที่ประติมากรรม “เดอะ ทรี” (The Tree) ถูกนำออกจัดแสดงข้างเสาที่มียอดเป็นอนุสาวรีย์นโปเลียน ณ จัตุรัสวองโดมอันหรูหรา ในกรุงปารีส เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (16 ต.ค.)
และเมื่อวันเสาร์ (18) มีคนตัดสายเคเบิลที่ยึดโยงผลงานศิลปะสูง 24 เมตร ซึ่งกระตุ้นให้เกิดเสียงหัวร่อต่อกระซิกในโลกสังคมออนไลน์ เนื่องจากมีรูปทรงคล้ายกับเซ็กทอยที่เรียกว่า “Butt plug” ชิ้นนี้ จนล้มลงมากองกับทางเท้า
นิทรรศการศิลปะร่วมสมัย FIAC ซึ่งจัดแสดงประติมากรรมชิ้นนี้ในบริเวณใกล้โรงแรมริทซ์ ระบุในคำแถลงวา “ศิลปิน (แม็กคาร์ธีย์) กำลังกังวลว่าอาจเกิดปัญหาขึ้นอีก ถ้านำงานศิลปะชิ้นนี้ออกมาจัดแสดงอีกครั้ง”
แม็กคาร์ธีย์กล่าวว่า “แทนที่จะได้เห็นปฎิกิริยาตอบสนองอันลึกซึ้งต่องานศิลปะที่ผู้ชมสามารถตีความได้มากมายหลายแง่มุม เรากลับได้เห็นปฏิกิริยารุนแรงแทน”
แม้ว่าศิลปินผู้นี้จะมีชื่อเสียงจากการสร้างผลงานศิลปะแนวกำกวม และกระตุกต่อมวิพากษ์วิจารณ์ของสาธารณชน แต่ก็ยังอดประหลาดใจกับกระแสตอบรับที่เขาได้รับจากกรุงปารีสไม่ได้ เนื่องจากเป็นที่เข้าใจกันดีว่าคนในเมืองหลวงของฝรั่งเศสมีทัศนคติที่ยืดหยุ่นต่อเรื่องเพศ
แหล่งข่าวซึ่งเป็นตำรวจกล่าวกับเอเอฟพี โดยไม่เปิดเผยนามว่า “(คนที่ทำลาย) รอให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคลาดสายตา จากนั้นก็ตัดสายเคเบิลที่ยึดโยงประติมากรรมชิ้นนี้ให้ตั้งอยู่กับที่ ทำให้งานศิลปะชิ้นนีล้มลงมา” พร้อมทั้งกล่าวเสริมว่า ตำรวจกำลังสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เจ้าหน้าที่ของนิทรรศการ FIAC ระบุว่า นอกจากนี้ผู้ก่อเหตุได้ถอดปลั๊กเครื่องปั๊มลมที่ช่วยให้ประติมากรรม เดอะ ทรี ตั้งตรงอีกด้วย