xs
xsm
sm
md
lg

ดูไบตระหนกอีโบลา! กักตัวผู้ต้องสงสัยหวั่นซ้ำรอยสหรัฐฯ ผู้นำโลก-UN ร้องฮึดสู้มากขึ้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเอฟพี/รอยเตอร์/ASTVผู้จัดการ - โลกกำลังกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ ต่อการแพร่ระบาดของอีโบลาที่มากับการสัญจรทางอากาศ ตามหลังกรณีชายชาวไลบีเรียนำเชื้อโรคเข้าสู่สหรัฐฯ ล่าสุดดูไบสั่งกักตัวผู้โดยสารรายหนึ่งที่มาจากแอฟริกาตะวันตก หลังมีอาการป่วยคล้ายไวรัสมรณะ นับเป็นผู้ต้องสงสัยติดเชื้อรายแรกของอ่าวเปอร์เซีย ขณะที่เหล่าผู้นำโลกเห็นพ้องกันประกาศให้อีโบลาเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบหลายปี ส่วนคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติก็เรียกร้องประชาคมนานาชาติขยายความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนเพื่อต่อสู้กับไวรัสชนิดนี้

กระทรวงสาธารณสุขของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์บอกว่า ผู้โดยสารชายคนดังกล่าวที่เดินทางมาจากไลบีเรียผ่านโมร็อกโก ถูกกักตัวเพื่อตรวจสอบแล้ว หลังมีอาการท้องร่วง แม้ว่าอุณหภูมิร่างกายยังปกติก็ตาม นอกจากนี้ผู้โดยสารทุกคนบนเที่ยวบินเดียวกันก็ถูกตรวจสอบเท่าที่จำเป็นในมาตรการป้องกันไว้ก่อน

อีโบลาติดต่อผ่านการสัมผัสสารคัดหลั่งของร่างกายของผู้ติดเชื้อ แต่มันจะไม่แพร่กระจายสู่คนอื่นๆจนกว่าคนไข้จะเริ่มแสดงอาการต่างๆ อย่างเช่นมีไข้ ปวดเมื่อย อาเจียนและท้องร่วง ขณะที่นับตั้งแต่ต้นปี ไวรัสมรณะชนิดนี้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้ว 4,493 ศพ จากผู้ติดเชื้อ 8,997 คน ส่วนใหญ่อยู่ในไลบีเรีย เซียร์ราลีโอนและกินี

การกักตัวผู้ต้องสงสัยในดูไบ มีขึ้นหลังจากสหรัฐฯพบผู้มีอาการป่วยด้วยโรคอีโบลารายแรกในประเทศเมื่อช่วงปลายเดือนกันยายน ได้แก่นายโทมัส เอริก ดันแคน ชายชาวไลบีเรียที่ติดเชื้อไวรัสมรณะในแอฟริกาตะวันตก แต่มาแสดงอาการป่วยระหว่างเดินทางมาเยี่ยมครอบครัวในเทกซัส ก่อนที่เขาจะเสียชีวิตในแผนกกักกันโรควันที่ 8 ตุลาคม ทั้งนี้ตอนที่เขาเดินทางเข้าสหรัฐฯนั้น เขาไม่แสดงอาการไข้ใดๆ

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขสหรัฐฯ เผยเมื่อวันพุธ (15 ต.ค.) ว่าพวกเขากำลังเร่งตามหาผู้โดยสารและลูกเรือ 132 คนของเที่ยวบินหนึ่ง เพื่อดำเนินการซักถาม หลังพบว่าผู้ติดเชื้ออีโบลารายที่ 2 ของสหรัฐฯ ได้โดยสารเครื่องบินภายในประเทศ จากโอไฮโอสู่เทกซัส ในวันที่ 13 ตุลาคม หนึ่งวันก่อนถูกวินิจฉัยโรคว่าล้มป่วยด้วยไวรัสมรณะชนิดนี้ ทั้งนี้เธอคือพยาบาลประจำโรงพยาบาลเท็กซัส เฮลท์เพรส ไบเทอเรียน ที่ให้การดูแลนายดันแคนเช่นเดียวกับผู้ติดเชื้อคนแรกของอเมริกา

โธมัส ไฟรเดน ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ (ซีดีซี) ยอมรับว่าการกรณีเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์สหรัฐฯ ติดเชื้ออีโบลาเป็นรายที่ 2 คือความกังวลอย่างยิ่ง และเตือนถึงความเป็นไปได้ว่าจะพบผู้ติดเชื้อสหรัฐฯเพิ่มเติมในอีกไม่กี่วันข้างหน้า พร้อมบอกว่าผู้ติดเชื้อรายหลังนี้ไม่ควรขึ้นโดยสารเครื่องบินก่อนหน้าผลวินิจฉัยโรคจะออกมา แม้มีความเป็นไปได้ต่ำมากที่เธอจะนำเชื้อไปติดผู้โดยสารคนอื่น

“เธออยู่ในกลุ่มบุคคลที่รู้ตัวว่าได้สัมผัสกับอีโบลา เธอไม่ควรเดินทางด้วยเครื่องบินพาณิชย์” ไฟรเดนบอกกับผู้สื่อข่าว “คำแนะนำของซีดีซีอย่างคร่าวๆก็คือจำเป็นต้องควบคุมการเคลื่อนไหว และต้องไม่ยุ่งเกี่ยวกับระบบขนส่งมวลชนใดๆ”

พยาบาลรายนี้โดยสารเครื่องบินของสายการบินฟรอนเทียร์ แอร์ไลน์ส จากท่าอากาศยานนานาชาติฟอร์ทเวิร์ทในดัลลัส สู่คลีฟแลนด์ ในวันที่ 10 ตุลาคม จากนั้นก็โดยสารเครื่องบินอีกเที่ยวกลับมาในวันที่ 13 ตุลาคม โดยเธอพบว่าตนเองมีไข้เมื่อวันอังคาร (14 ต.ค.) และถูกกักกันโรคที่โรงพยาบาลในทันที ก่อนที่ผลวินิจฉัยโรคจะออกมาในวันพุธ (15 ต.ค.)

จากความกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ ต่อการแพร่ระบาดของอีโบลาที่มากับการสัญจรทางอากาศ ส่งผลให้ฝรั่งเศสตัดสินใจเป็นชาติล่าสุดที่จะดำเนินการคัดกรองด้านสาธารณสุขต่อผู้โดยสารเครื่องบินที่เดินทางมาจากเหล่าประเทศในแอฟริกาตะวันตกที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสมรณะ

ถ้อยแถลงนี้มีขึ้นหลังจากนายฟรังซัวส์ ออลลองด์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ประชุมทางไกลทางวิดีโอกับประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐฯ นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี นายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ และนายมัตเตโอ เรนซี นายกรัฐมนตรีอิตาลี เพื่อหารือถึงวิกฤตอีโบลา

ในเวลาต่อมาทางสำนักนายกรัฐมนตรีของนายคาเมรอน เปิดเผยว่า “เหล่าผู้นำโลกเห็นพ้องกันว่านี่คือสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขสากลครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบหลายปี และประชาคมนานาชาติจำเป็นต้องดำเนินการให้มากกว่าเดิมและเร็วยิ่งขึ้น เพื่อระงับการแพร่ระบาดของอีโบลาในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตกที่หนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ” ส่วน จอช เออร์เนสต์ โฆษกทำเนียบขาวแถลงกับผู้สื่อข่าวว่าโอบามา ได้เรียกร้องเหล่าผู้นำชาติตะวันตกทั้งหลายเช่นกันว่าโลกจำเป็นต้องอุทิศความพยายามมากขึ้นอีกหลายเท่าเพื่อหยุดยั้งไวรัสมรณะชนิดนี้

เช่นเดียวกับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่ในวันเดียวกัน ก็ได้เรียกร้องประชาคมนานาชาติเร่งมือและขยายความช่วยเหลืออย่างทันทีทันใดสำหรับต่อสู้กับการแพร่ระบาดของอีโบลา โดยในมติที่รับรองคำแถลงอย่างเป็นเอกฉันท์ ทาง 15 ชาติสมาชิกยังเตือนด้วยว่ามาตรการตอบสนองของโลกในตอนนี้ยังล้มเหลวในการจัดการกับระดับของการแพร่ระบาดและผลกระทบของอีโบลา
กำลังโหลดความคิดเห็น