เอเอฟพี - มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ร่วมก่อตั้งเฟซบุ๊ก เผยเมื่อวันอังคาร (14 ต.ค.) ว่าเขาและภรรยาจะบริจาคเงิน 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 810 ล้านบาท) สมทบกองทุนหน่วยงานสหรัฐฯ ที่กำลังพยายามจำกัดการแพร่ระบาดของอีโบลา ท่ามกลางความกังวลว่าไวรัสมรณะชนิดนี้กำลังแผ่ลามออกนอกแอฟริกาตะวันตก ขณะที่เยอรมนีก็กลายเป็นชาติล่าสุดที่มีผู้เสียชีวิตด้วยโรคระบาดร้ายแรงนี้
ซักเคอร์เบิร์กเปิดเผยผ่านหน้าเฟซบุ๊กของตนเองว่า “โรคระบาดอีโบลาอยู่ในช่วงจุดเปลี่ยนสำคัญ จนถึงตอนนี้มีผู้ติดเชื้อ 8,400 คน แต่มันกำลังแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว และจากการคาดการณ์บ่งชี้ว่าอาจมีผู้ติดเชื้อถึง 1 ล้านคนหรือมากกว่านั้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า หากไม่ถูกจัดการ ในระยะสั้นเราจำเป็นต้องดึงอีโบลาให้อยู่ภายใต้การควบคมเพื่อไม่ให้มันแผ่ลามไปมากกว่านี้และกลายเป็นวิกฤตสาธารณสุขโลกในระยะยาวที่จบลงด้วยการที่เราต้องต่อสู้ในขอบเขตที่กว้างขวางยาวนานหลายทศวรรษ อย่างเช่น เอชไอวี หรือว่าโปลิโอ”
ผู้ร่วมก่อตั้งเฟซบุ๊กรายนี้บอกต่อว่า เขาและพริสซิลลา ภรรยากำลังบริจาคเงินเพื่อเป็นทุนแก่กองทุนของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ (CDC) “เราเชื่อว่าเงินบริจาคของเราคือวิธีการเร่งด่วนที่สุดสำหรับเสริมอำนาจแก่ซีดีซีและเหล่าผู้เชี่ยวชาญในสนามต่อสู้นี้เพื่อป้องกันผลลัพธ์หายนะ การบริจาคนี้เสมือนเป็นการให้ความช่วยเหลือโดยตรงแก่ผู้ที่ทำงานอย่างกล้าหาญในแถวหน้า ไม่ว่าจะเป็นคนที่อยู่ในพื้นที่ที่กำลังจัดตั้งศูนย์ดูแล ฝึกหัดเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น หาตัวผู้ติดเชื้ออีโบลาและอื่นๆอีกเยอะแยะมากมาย”
อีโบลาคร่าชีวิตผู้คนแล้วมากกว่า 4,000 ศพ จากจำนวนผู้ติดเชื้อ 8,914 คน ส่วนใหญ่อยู่ในกินี ไลบีเรีย และเซียร์ราลีโอน ขณะที่ระบบสาธารณสุขที่ขาดแคลนทุนทรัยพ์ในแอฟริกาตะวันตกถูกไวรัสมรณะชนิดนี้เล่นงานจนพังทลาย
เมื่อเดือนที่แล้ว มูลนิธิบิลและเมลินดา เกตส์ ประกาศบริจาคเงิน 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,620 ล้านบาท) เพื่อสนับสนุนต่อสู้กับอีโบลา โดยจัดมอบทุนแก่หน่วยงานต่างๆของสหประชาชาติและองค์กรระหว่างประเทศทั้งหลายแหล่ที่มีความเกี่ยวข้องกับไวรัสมรณะชนิดนี้
ความหวาดกลัวว่าการแพร่ระบาดของอีโบลาในแอฟริกาตะวันตกอาจลุกลามไปยังทวีปอื่นๆ เริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยสหรัฐฯ และหลายชาติยุโรปยกระดับสกัดกั้นอีโบลา ขณะที่องค์การอนามัยโลกเตือนเมื่อวันจันทร์ (13 ต.ค.) ก็เรียกร้องให้บรรดาประเทศในเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก เสริมการป้องกันเพื่อรับมือกับการระบาดของไวรัสมรณะชนิดนี้
ในวันอังคาร (14 ต.ค.) เยอรมนีกลายเป็นชาติล่าสุดที่มีผู้เสียชีวิตด้วยโรคระบาดร้ายแรงนี้ หลังเจ้าหน้าที่สาธารณสุขสหประชาชาติที่ติดเชื้ออีโบลาขณะปฏิบัติหน้าที่ในแอฟริกาตะวันตกและถูกส่งมารักษาตัวในเยอรมนีเสียชีวิตลงแล้ว นับเป็นผู้เสียชีวิตด้วยไวรัสมรณะรายแรกของประทศ
“ผู้ป่วยอีโบลาได้เสียชีวิตในตอนกลางคืนที่เซนต์จอร์จคลีนิก ในเมืองไลป์ซิก แม้ว่าจะทีมแพทย์จะดูแลรักษาละเอียดรอบคอบและใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ แต่เจ้าหน้าที่ยูเอ็นวัย 56 ปี ก็ได้ยอมจำนนต่ออาการติดเชื้ออย่างรุนแรง” คำแถลงของโรงพยาบาลระบุ
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขท้องถิ่นบอกไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ผู้ติดเชื้อรายนี้เป็นหมอชาวซูดานที่ถูกนำตัวจากไลบีเรีย เพื่อมารักษาในเยอรมนีเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว (9 ต.ค.)
ก่อนหน้านี้ เยอรมนีได้รักษาผู้ป่วยอีโบลา 2 รายที่ติดเชื้อในเซียร์ราลีโอน โดยเป็นชาวเซเนกัล 1 ราย ที่ถูกนำตัวไปรักษาในฮัมบูร์กแล้วได้ออกจากโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม กับหมอชาวยูกันดา ที่ตอนนี้กำลังรักษาตัวอยู่ในแฟรงก์เฟิร์ต
