บีบีซี - บรรดาเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจในรัฐอานธรประเทศ และโอริสสาระดมความพยายามกันช่วยเหลือประชาชนราว 400,000 คน ที่ได้รับผลกระทบจากพายุไซโคลน ขณะที่ยอดชาวอินเดียที่เสียชีวิตจากพายุลูกนี้ขยับขึ้นเป็น 24 คน
ไซโคลน “ฮุดฮุด” ได้พัดถล่มบ้านเรือน ถอนรากถอนโคนต้นไม้ และเสาไฟฟ้า จนล้มระเนระนาดขวางท้องถนน และสร้างความเสียหายแก่พืชผลในสองรัฐ
นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี แห่งอินเดียกำลังเตรียมบินไปยังพื้นที่ประสบภัย รวมถึง เมืองวิสาขปัตนัม เพื่อประเมินความเสียหาย
มีการคาดการณ์กันว่า ไซโคลนลูกนี้จะทำให้มีฝนตกหนักใน 6 รัฐ จึงเกิดกระแสหวั่นวิตกว่าจะเกิดน้ำท่วมตามมา
บรรดาเจ้าหน้าที่กู้ภัย และทหารได้เริ่มเคลื่อนย้ายต้นไม้ที่ล้มลงมาขวางถนน ซ่อมแซมสายไฟฟ้าและสายโทรศัพท์ พร้อมกับเก็บกวาดซากความเสียหายในเมืองวิสาขปัตนัม รัฐอานธรประเทศ ซึ่งเป็นเมืองที่ได้รับผลกระทบหนักสุดจากพายุไซโคลนกำลังแรงลูกนี้
คำแถลงของกระทรวงมหาดไทยแดนภารตะระบุว่า กองทัพอากาศอินเดียกำลังส่งเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ออกแจกจ่ายเสบียงอาหารให้แก่ประชาชนทั้งในและโดยรอบเมืองนี้
สนามบินวิสาขปัตนัม ได้รับความเสียหายจากไซโคลนลูกนี้อย่างรุนแรง จนต้องปิดให้บริการ โดยหลังคาบางส่วนปลิวหายไปกับลมพายุ และรันเวย์ถูกน้ำท่วม
ปารกาลา ประภาคาร เจ้าหน้าที่อาวุโสของรัฐอานธรประเทศกล่าวกับสำนักข่าวเอพีว่า มีผู้เสียชีวิตที่เมืองวิสาขปัตนัมถึง 15 คน ขณะที่ท่าเรือในเมืองก็ได้รับความเสียหายย่อยยับจากไซโคลน
มีรถยนต์มาจอดรอเติมเชื้อเพลิงยาวเหยียด ที่ปั๊มน้ำมันซึ่งกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งวานนี้ (13) เพียงไม่กี่แห่ง ในขณะที่น้ำมันยังคงขาดแคลน เนื่องจากปั๊มน้ำมันจำนวนมากถูกพายุพัดถล่มเสียหายเมื่อวันอาทิตย์ (12)
พายุไซโคลนลูกนี้พัดเสาไฟฟ้าล้มระเนระนาด ฉุดรากถอนโคนต้นไม้ และทำรถยนต์พลิกคว่ำ อีกทั้งทำให้ซากความเสียหายปลิวกระจายเกลื่อนท้องถนน
ทางการระบุว่า มีบ้านเรือนในรัฐอานธรประเทศได้รับความเสียหายอย่างน้อย 6,500 หลัง
ในช่วงเดือนสิงหาคม ถึงเดือนพฤศจิกายน ชายฝั่งด้านทิศตะวันออกของอินเดีย และบังกลาเทศมักถูกพายุไซโคลนพัดถล่มเป็นประจำ จนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต และสิ่งปลูกสร้างได้รับความเสียหายอย่างกว้างขวาง
เมื่อปี 1999 มีผู้เสียชีวิตกว่า 10,000 คน หลังซูเปอร์ไซโคลนลูกหนึ่งเคลื่อนตัวถล่มรัฐโอริสสา