เอเอฟพี – ออสเตรเลียส่งเครื่องบินขับไล่ซูเปอร์ฮอร์เน็ตออกปฏิบัติการถล่มกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในอิรักเป็นครั้งแก โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ “สิ่งก่อสร้าง” แห่งหนึ่งของพวกนักรบญิฮาด กระทรวงกลาโหมเมืองจิงโจ้แถลงวันนี้ (9)
ถ้อยแถลงจากกระทรวงระบุว่า “หน่วยปฏิบัติภารกิจทางอากาศของออสเตรเลียในตะวันออกกลางได้เริ่มโจมตีเป้าหมายไอเอสแห่งแรกเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา”
“ระเบิด 2 ลูก ถูกทิ้งจากเครื่องบินขับไล่ F/A-18F ซูเปอร์ฮอร์เน็ต ลงไปยังสิ่งก่อสร้างแห่งหนึ่งของไอเอส อากาศยานทุกลำออกจากพื้นที่เป้าหมาย และกลับสู่ฐานทัพอย่างปลอดภัย”
ออสเตรเลียเข้าร่วมกับพันธมิตรนานาชาติที่มีสหรัฐฯเป็นผู้นำ ตั้งแต่เริ่มมีการทิ้งระเบิดโจมตีไอเอสในอิรักเมื่อเดือนสิงหาคม
แคนเบอร์ราได้ส่งเครื่องบิบขับไล่ F/A-18 ซูเปอร์ฮอร์เน็ต สูงสุด 8 ลำ, เครื่องบินเตือนภัยกลางอากาศ (E-7A Wedgetail Airborne Early Warning and Control Aircraft) และเครื่องบินขนส่งอเนกประสงค์ (KC-30A Multi-Role Tanker and Transport Aircraft) ไปประจำการที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับภารกิจปราบปรามกลุ่มติดอาวุธ
ทั้งนี้ เครื่องบินของออสเตรเลียเริ่มทะยานขึ้นสู่ฟ้าเพื่อปฏิบัติภารกิจตั้งแต่วันอาทิตย์ (5) แต่เพิ่งจะมีการทิ้งระเบิดลูกแรกเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา
กระทรวงกลาโหมออสเตรเลียไม่เปิดเผยรายละเอียดใดๆ เพิ่มเติมอีก
รัฐบาลออสเตรเลียยังคงจำกัดขอบเขตปฏิบัติการทางทหารในอิรัก เช่นเดียวกับฝรั่งเศส, อังกฤษ, เดนมาร์ก, เบลเยียม และ เนเธอร์แลนด์ ในขณะที่สหรัฐฯและพันธมิตรชาติอาหรับเริ่มเปิดฉากโจมตีฐานที่มั่นไอเอสในซีเรียแล้ว
ออสเตรเลียยังได้ส่งทหารกว่า 600 นาย ไปยังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รวมถึงหน่วยรบพิเศษและเจ้าหน้าที่สนับสนุน ซึ่งภารกิจหลักอยู่ที่การช่วยเหลือกองกำลังความมั่นคงอิรักวางแผนและประสานงานต่อต้านกลุ่มไอเอส ทหารเหล่านี้กำลังรอการอนุมัติด้านกฎหมายก่อนจะเริ่มปฏิบัติภารกิจ
“เรามีหน่วยรบพิเศษสูงสุด 200 นายที่พร้อมปฏิบัติภารกิจทันที โดยจะให้คำปรึกษาและสนับสนุนกองกำลังความมั่นคงของอิรัก” นายกรัฐมนตรี โทนี แอบบ็อตต์ แห่งออสเตรเลีย แถลงเมื่อวานนี้ (8)
การเข้าร่วมกวาดล้างกลุ่มไอเอสได้แรงสนับสนุนเต็มที่จากกลุ่มพรรคอนุรักษนิยมของ แอบบ็อตต์ และพรรคแรงงานซึ่งเป็นฝ่ายค้าน โดยรัฐบาลออสซียืนยันว่า การสนับสนุนปฏิบัติการนานาชาติครั้งนี้ถือว่าทำไปเพื่อผลประโยชน์ของออสเตรเลียเอง