เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่ออกมาระบุในวันอังคาร (7 ต.ค.) ว่ามีพลเรือน 5 รายกับทหารอีก 7 ราย เสียชีวิตจากการปะทะกันระหว่างฝ่ายรัฐบาลยูเครนกับพวกกบฏแบ่งแยกดินแดน
ยอดการเสียชีวิตในการปะทะกันครั้งล่าสุดนี้ นับเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดนับตั้งแต่มีการลงนามข้อตกลงหยุดยิงเมื่อวันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมา ทำให้ตัวเลขรวมของพลเรือนที่เสียชีวิตจากจรวดและกระสุนปืนครกอยู่ที่ 14 ราย นับตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์
เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นระบุว่า พลเรือนที่เสียชีวิตนั้น มีทั้งในโดเนตสก์และลูกานสก์ ซึ่งเป็นพื้นที่ภายใต้การควบคุมของฝ่ายกบฏ
ด้านกองทัพยูเครน ระบุว่า มีทหารหลายคนที่เสียชีวิตในยูเครนตะวันออก ซึ่งเป็นเขตอุตสาหกรรมที่ติดกับชายแดนรัสเซีย
อังดรีย์ ลีเชนโก โฆษกสภากลาโหมและความมั่นคงแห่งชาติยูเครน บอกกับนักข่าวว่า จากการปะทะและยิงกระสุนปืนใหญ่เข้าใส่กันในหลายพื้นที่ ซึ่งมีการปฏิบัติภารกิจต่อต้านก่อการร้าย ส่งผลให้มีทหารยูเครนเสียชีวิต 5 ราย
ขณะที่ฝ่ายกบฏนั้นไม่มีการรายงานความสูญเสียของฝ่ายตนจากการปะทะกัน แต่สื่อของยูเครนอ้างว่า มีตัวเลขผู้เสียชีวิตจำนวนมาก แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้
ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากการปะทะกันครั้งล่าสุดนี้ ได้ทำให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตของทหารยูเครนและพลเรือน ถึงหลัก 100 รายแล้ว นับตั้งแต่มีการทำข้อตกลงหยุดยิง ที่ได้รับการหนุนหลังจากรัสเซียและนักการทูตของยุโรป
การสู้รบเกิดขึ้นแทบทุกวันแถวๆ รอบนอกของโดเนตสก์ฝั่งทิศเหนือ ซึ่งมีกองกำลังของฝ่ายรัฐบาลยูเครนควบคุมพื้นที่สนามบินมาตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพฤษภาคม