เอเอฟพี – ประชาชนหลายพันคนในทวีปแอฟริกา และทั่วโลก ออกมาเดินขบวนวานนี้ (4 ต.ค.) เพื่อกดดันให้รัฐบาลของแต่ละประเทศดำเนินมาตรการที่เด็ดขาดจริงจังมากขึ้น เพื่อยับยั้งอุตสาหกรรมการล่าสัตว์ที่คนจำนวนมากพากันหวั่นเกรงว่า จะฉุดให้ประชากรแรดและช้างสูญพันธุ์
การประท้วงซึ่งขนานนามว่า “การเดินขบวนเพื่ออนุรักษ์ช้างและแรดทั่วโลก” ได้เกิดขึ้นใน 136 เมืองน้อยใหญ่ทั่ว 6 ทวีป นับตั้งแต่เมืองโซเวโต ไปจนถึงกรุงไนโรบี และนับตั้งแต่กรุงปารีส ไปจนถึงมหานครนิวยอร์ก และกรุงโตเกียว
ประชาชนที่แอฟริกาใต้ ซึ่งกำลังดิ้นรนต่อสู้เพื่อยับยั้งวิกฤตการล่าแรด ได้ออกมาชุมนุมกันทั่ว 17 เมือง
เด็กซ์ โกตเซ หนึ่งในผู้จัดการชุมนุมกล่าวกับเอเอฟพีว่า “เรากำลังประท้วงบรรดาผู้นำการเมืองของโลกที่ไม่ออกมาแสดงความเด็ดขาดจริงจัง และไม่แสดงเจตจำนงทางการเมืองที่จะแก้ไขกฎหมายของพวกเขา”
เขากล่าวว่า “เราต้องทำแบบนี้เพื่อคนรุ่นต่อไปของเรา คนหนุ่มสาวใน 136 เมืองทั่วโลกวันนี้กำลังประกาศว่า สัตว์ที่ถูกฆ่าคือ “มรดกของพวกเขา””
โกตเซ กล่าวว่า จากที่แอฟริกาเคยมีช้าง 27 ล้านตัว เมื่อ 350 ปีก่อน ตอนนี้ทวีปนี้มีช้างเหลือเพียงราว 400,000 ตัว ทั้งยังถูกฆ่าไปถึงปีละราว 9 เปอร์เซ็นต์
แอฟริกาใต้ ซึ่งเป็นบ้านของประชากรแรดกลุ่มใหญ่ที่สุดในโลก มีแรดถูกฆ่าไปแล้วอย่างน้อย 700 ตัวในปีนี้
ขบวนการล่าสัตว์ได้สังหารแรด ซึ่งเป็นสัตว์ป่าหายากในแอฟริกาเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อตอบสนองความต้องการจากประเทศในทวีปเอเชีย ดินแดนที่นำนอของมันนำไปทำยาบำรุงร่างกาย และรักษาอาการเจ็บป่วยต่างๆ เป็นต้นว่า อาการไข้และโรคไขข้ออักเสบ
นอกจากนี้ ในแต่ละปีจะมีช้างทั่วแอฟริกามากกว่า 35,000 ตัว ถูกฆ่าเอางา ซึ่งจะถูกนำไปทำเป็นของแต่งบ้าน และเครื่องประดับต่างๆ ที่มีราคาสูงโดยเฉพาะในประเทศจีน
