น้ำมันลอนดอนลงหลังซาอุฯ ลดราคา หุ้นสหรัฐฯ-ทองคำทรงตัว

เอเอฟพี - น้ำมันลอนดอนช่วงหนึ่งวานนี้ (2 ต.ค.) ร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีเศษ หลังชาติผู้ผลิตสำคัญอย่างซาอุดีอาระเบียปรับลดราคาลง ส่วนวอลล์สตรีท และทองคำทรงตัว นักลงทุนจับตาข้อมูลภาคแรงงานสหรัฐฯ ที่มีกำหนดเปิดเผยในวันศุกร์ (3 ต.ค.)

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ช่วงหนึ่งของการซื้อขายลดลงแตะ 88.18 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน 2013 ก่อนฟื้นตัวปิดที่ 91.01 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 28 เซ็นต์ ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน ช่วงหนึ่งแตะ 91.55 ดอลลาร์ ต่ำสุดตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2012 แต่ขยับขึ้นมาปิดที่ 93.42 ดอลลาร์ ลดลง 74 เซ็นต์

ความเคลื่อนไหวของตลาดพลังงานเมื่อวันพฤหัสบดี (2 ต.ค.) เป็นผลจากการที่ซาอุฯ ประกาศลดราคาจำหน่ายน้ำมัน ส่งสัญญาณว่าริยาดจะไม่ลดปริมาณการผลิตน้ำมันลงอีก และจะรักษาส่วนแบ่งตลาดไว้ ส่งผลให้ราคาน้ำมันจะไม่ปรับตัวสูงขึ้น แม้ปริมาณสต๊อกน้ำมันลดลงไป

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ (2 ต.ค.) ปิดในกรอบแคบๆ นักลงทุนจับตาข้อมูลภาคแรงงานประจำเดือนกันยายนของสหรัฐฯ ที่มีกำหนดเผยแพร่ในช่วงปลายสัปดาห์

ดาวโจนส์ ลดลง 3.66 จุด (0.02 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 16,801.05 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 0.01 จุด (0.00 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,946.17 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 8.11 จุด (0.18 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,430.20 จุด

วอลล์สตรีทแกว่งตัวในแดนลบเกือบตลอดครึ่งวันเช้า ตามตลาดหุ้นยุโรปที่ร่วงลงอย่างหนัก จากความผิดหวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างจำกัดของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ขณะที่ลงทุนเฝ้ารอข้อมูลภาคแรงงานอเมริกา ที่คาดหมายว่าในเดือนกันยายนน่าจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 210,000 ตำแหน่ง

ปัจจัยนี้เองส่งผลให้ราคาทองคำวันพฤหัสบดี (2 ต.ค.) ปรับลงเล็กน้อย เหนือระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือนไม่มากนัก โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 40 เซ็นต์ ปิดที่ 1,215.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์