ปาเลสไตน์ร่าง “มติยูเอ็น” เรียกร้องอิสราเอลยุติการ “ยึดครองดินแดน”

รอยเตอร์ - นักการทูตขององค์การสหประชาชาติเปิดเผยวานนี้ (1 ต.ค.) ว่าปาเลสไตน์ได้ร่างมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เพื่อเรียกร้องให้อิสราเอลยุติการยึดครองดินแดนของปาเลสไตน์ภายในเดือนพฤศจิกายน ปี 2016 โดยปาเลสไตน์ได้ส่งให้บรรดาประเทศอาหรับ และชาติสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงบางส่วนได้อ่านอย่างไม่เป็นทางการแล้ว

นักการทูตซึ่งขอสงวนนามระบุว่า ร่างมติดังกล่าวจะไม่ได้รับการเผยแพร่อย่างเป็นทางการต่อชาติสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงทั้ง 15 ชาติ เนื่องจากปาเลสไตน์มีสถานะเป็นรัฐผู้สังเกตการณ์ที่มิใช่สมาชิก จึงไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ ด้วยเหตุนี้จึงไม่เป็นที่แน่ชัดว่าร่างมติฉบับนี้จะได้รับการเสนอเพื่อให้คณะมนตรีความมั่นคงพิจารณาหรือไม่ และเมื่อใด

ร่างมติดังกล่าวเรียกร้องให้ “อิสราเอลถอนพลเมืองออกจากดินแดนที่ยึดครองมาจากปาเลสไตน์นับตั้งแต่ปี 1967 รวมถึง พื้นที่เยรูซาเลมตะวันออกออกไปทั้งหมด โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ และให้ทันกรอบเวลาที่กำหนด คือไม่เกินเดือนพฤศจิกายน ปี 2016”

อย่างไรก็ตาม มีแนวโน้มที่ร่างมติฉบับนี้จะถูกคัดค้านโดยสหรัฐฯ ซึ่งเป็นสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงที่มีสิทธิวีโต้ (สิทธิยับยั้งมติ) เนื่องจากประเทศนี้เป็นพันธมิตรสำคัญของอิสราเอล

ซาแมนธา พาวเวอร์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติกล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันอังคาร (30) ว่า “เรารับทราบถึงแผนการของประธานาธิบดีอับบาสแล้ว และเรายังเชื่อ เชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่าหนทางเดียวที่จะสามารถเจรจาหาทางออกให้ปัญหานี้ได้ ก็คือการเจรจาระหว่างสองฝ่าย”

ทั้งนี้ อิสราเอลยอมรับแนวคิด “การจัดตั้งสองรัฐเคียงคู่กัน” โดยจัดตั้งปาเลสไตน์เป็นรัฐอิสระ และปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยเคียงข้างอิสราเอล แต่รัฐยิวไม่ยอมรับเส้นพรมแดนช่วงก่อนปี ค.ศ. 1967 เป็นพื้นฐานของการเจรจาในขั้นสุดท้าย โดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคงและความกังวลอื่นๆ

ประธานาธิบดีมะห์มูด อับบาส แห่งปาเลสไตน์ กล่าวในที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (26 ก.ย.) ว่า การเจราจาสันติภาพกับอิสราเอลไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์ใดๆ หากเป้าหมายในการยุติการครอบครองดินแดนปาเลสไตน์นาน 47 ปีไม่สิ้นสุดลงภายในกรอบเวลาที่วางเอาไว้อย่างเด็ดขาด”

ในที่ประชุม อับบาสได้กล่าวหาว่าอิสราเอลฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ระหว่างการดำเนินปฏิบัติการทหาร 50 วันในฉนวนกาซา เพื่อปราบปรามขบวนการอิสลามิสต์ “ฮามาส” ซึ่งสิ้นสุดลงในเดือนสิงหาคม ด้วยการทำข้อตกลงหยุดยิงระยะยาวที่อียิปต์เป็นผู้ผลักดัน ทั้งนี้ ฮามาสคือขบวนการติดอาวุธซึ่งแผ่อำนาจปกครองฉนวนกาซ่า

นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล ได้ออกมากล่าวตอบโต้ปาเลสไตน์อย่างแค้นเคือง ณ ที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติเมื่อวันจันทร์ (29) โดยชี้ว่า เป็นการกล่าวหาที่ “ไร้ยางอาย” แต่เขาก็แสดงท่าทีสนับสนุน”การประนีประนอมครั้งประวัติศาสตร์”