รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-นายกรัฐมนตรีหญิงของโปแลนด์ซึ่งเพิ่งก้าวขึ้นครองอำนาจ ออกโรงในวันพุธ (1 ต.ค.) โดยระบุ โปแลนด์จะไม่ก้าวย่างอย่างผลีผลามเข้าเป็นสมาชิกกลุ่ม “ยูโรโซน” ตราบใดที่กลุ่ม 18 ประเทศที่ใช้เงินยูโรเป็นเงินตราสกุลหลักร่วมกันยังคงไม่หลุดพ้นจากเมฆหมอกแห่ง “ความไร้เสถียรภาพ”
รายงานข่าวล่าสุดจากกรุงวอร์ซอว์ เมืองหลวงของโปแลนด์ระบุว่า นายกรัฐมนตรีหญิง เอวา คอปาช วัย 57 ปี ซึ่งเพิ่งก้าวขึ้นครองอำนาจเมื่อปลายเดือนกันยายน ได้กล่าวสุนทรพจน์ต่อรัฐสภาเป็นครั้งแรกหลังเข้ารับตำแหน่ง โดยยืนยันว่า รัฐบาลโปแลนด์ภายใต้การนำของเธอ จะยึดมั่นในจุดยืนเดิมของรัฐบาลชุดก่อน ในการก้าวเดินไปสู่การเป็นสมาชิกกลุ่มยูโรโซนด้วยความระแวดระวัง และไม่ผลีผลามเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเงินยูโร
คอปาช ซึ่งเข้ารับตำแหน่งต่อจากอดีตนายกรัฐมนตรีโดนัลด์ ทุสก์ ผู้นำโปแลนด์ ที่เตรียมเข้ารับตำแหน่งประธานสภายุโรปในปลายปีนี้ ระบุว่า รัฐบาลของเธอจะให้ความสำคัญเป็นลำดับแรก กับการสร้างเศรษฐกิจภายในประเทศให้แข็งแกร่งเพื่อให้ครอบครัวชาวโปแลนด์มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มากกว่าที่จะโฟกัสกับการเข้าเป็นสมาชิกใหม่ของกลุ่มยูโรโซน
“เราจะไม่ผลีผลามก้าวเข้าร่วมกลุ่มยูโรโซน ตราบใดที่กลุ่มยูโรโซนยังคงเดินวนอยู่บนวิถีแห่งความเปราะบาง และยังไม่หลุดพ้นจากเมฆหมอกแห่งความไร้เสถียรภาพ ทั้งโปแลนด์และกลุ่มยูโรโซนยังคงมีการบ้านต้องทำอีกมาก กว่าที่เราจะก้าวไปถึงจุดนั้น” นายกรัฐมนตรีหญิงของโปแลนด์กล่าวต่อรัฐสภา
ท่าทีล่าสุดของนายกรัฐมนตรีโปแลนด์สอดคล้องกับผลการสำรวจความคิดเห็นชาวโปแลนด์ล่าสุดที่ระบุ กว่าร้อยละ 71 ของชาวโปแลนด์เชื่อว่าการกระโจนเข้าร่วมเป็นสมาชิกใหม่ของกลุ่มยูโรโซนในเวลานี้ จะส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจโปแลนด์มากกว่าที่จะเป็นผลดี
ทั้งนี้ โปแลนด์ซึ่งถือเป็นประเทศที่มีขนาดของเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในยุโรปตะวันออกได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป (อียู) ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปี 2004 แต่ยังคงไม่เข้าร่วมเป็นสมาชิกกลุ่มยูโรโซน
