รอยเตอร์ - กลุ่มสิทธิมนุษยชนเมื่อวันอังคาร (30 ก.ย.) เรียกร้องสหภาพยุโรปกดดัน “ประยุทธ์” หัวหน้าคณะรัฐประหารของไทย ให้ปกป้องสิทธิมนุษยชนและคืนสู่การปกครองตามระบอบประชาธิปไตยโดยเร็ว ระหว่างที่นายพลนายนี้มีกำหนดเดินทางเยือนอิตาลีเพื่อร่วมประชุมซัมมิทของเหล่าผู้นำเอเชียและอียู
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้นำกองทัพก่อรัฐประหารโค่นอำนาจรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม มีกำหนดเข้าร่วมประชุมเอเชีย-ยุโรป (อาเซม) ในฐานะนายกรัฐมนตรี ที่เมืองมิลาน ในวันที่ 16-17 ตุลาคมนี้
สหรัฐฯ และสหภาพยุโรปลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูตกับไทยตอบโต้กรณีกองทัพก่อรัฐประหารโค่นอำนาจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย “อียูควรใช้โอกาสนี้กดดันให้ยุติละเมิดสิทธิมนุษยชนและขอคำรับประกันอย่างเป็นรูปธรรมว่าไทยจะเปลี่ยนถ่ายคืนสู่ประชาธิปไตย” นายสุนัย ผาสุก ผู้ประสานงานที่ปรึกษาองค์กรฮิวแมนไรต์วอตช์ประจำประเทศไทยให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์
อียูเลื่อนการลงนามกระชับความสัมพันธ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจกับไทย รวมถึงเรียกร้องให้คืนสู่ประชาธิปไตยโดยเร็ว นอกจากนี้พวกเขายังระงับการเยือนอย่างเป็นทางการระหว่างกัน แต่ไม่ถึงขั้นห้ามการเดินทางของคณะรัฐประหาร
เหตุรัฐประหารเกิดขึ้นตามหลังการประท้วงที่ยืดเยื้อยาวนานหลายเดือนและบางครั้งก็เลี้ยวเข้าสู่ความรุนแรงของนักเคลื่อนไหวฝ่ายต่อต้านรัฐบาล ที่มีเป้าหมายกำจัดอิทธิพลของทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพี่ชายของยิ่งลักษณ์
พล.อ.ประยุทธ์อ้างเหตุผลของการก่อรัฐประหารว่ามีความจำเป็นสำหรับหยุดยั้งเหตุนองเลือด หลังมีประชาชนเกือบ 30 คนเสียชีวิตในเหตุความรุนแรงนานๆ ครั้ง แต่คณะรัฐประหารต้องตกอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างหนักต่อการปราบปรามพวกที่วิจารณ์และจำกัดสิทธิการแสดงออก
อียูระบุในถ้อยแถลงว่า ประยุทธ์ได้รับเชิญให้เข้าร่วมประชุมในอิตาลี ตามกรอบการประสานงานของอาเซมซัมมิต “สมาชิกอาเซมมีอิสระในการตัดสินใจองค์ประกอบคณะผู้แทนของพวกเขาในการเข้าร่วมประชุมอาเซมซัมมิต และเราอนุมัติวีซ่าแก่ทุกคนที่ไม่ได้อยู่ภายใต้ข้อจำกัดด้านการเดินทาง” ผู้แทนของอียูประจำประเทศไทยกล่าว
รอยเตอร์รายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ประสงค์ใช้โอกาสร่วมประชุมที่อิตาลี สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการทำรัฐประหาร รวมทั้งให้คำรับประกันกับนักท่องเที่ยวและนักลงทุนต่างชาติว่าไทยตะคืนสู่ประชาธิปไตยผ่านการเลือกตั้งในปีหน้า “นายกรัฐมนตรีประยุทธ์ จะใช้โอกาสนี้ชี้แจงสถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบัน” ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าว