เอเอฟพี - ประธานาธิบดี เบนิโญ อากีโน แห่งฟิลิปปินส์วันนี้ (1 ต.ค.) ได้วิพากษ์วิจารณ์การที่องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ปฏิเสธที่จะเพิ่มอาวุธให้เจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพชาวฟิลิปปินส์ ซึ่งรักษาความสงบเรียบร้อยบนที่ราบสูงโกลัน พร้อมทั้งชี้ว่า การขาดแคลนอาวุธคือสาเหตุที่ทำให้ภารกิจของพวกเขากลายเป็นสิ่งที่ “เป็นไปไม่ได้”
อากีโนกล่าวว่า การที่ยูเอ็นปฏิเสธคำขอเพิ่มอาวุธให้เจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพ ทำให้พวกเขาต้องตกเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำโดยไม่จำเป็น เมื่อกบฏซีเรียที่มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์ก่อเหตุโจมตีปิดล้อมฐานที่มั่นของพวกเขาเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
อากีโนกล่าวในพิธีมอบเหรียญกล้าหาญให้เจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพบนที่ราบสูงโกลัน ซึ่งมีขึ้นที่ทำเนียบประธานาธิบดีว่า ฟิลิปปินส์ไม่สามารถส่งกำลังทหารไปร่วมภารกิจที่เป็นไปไม่ได้ หรือน่าเคลือบแคลงสงสัย
เมื่อเดือนที่แล้ว ฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นหนึ่งในชาติเอเชียที่ป้อนกำลังพลให้กองกำลังรักษาสันติภาพแห่งสหประชาชาติมากที่สุด ได้ถอนทหาร 344 คนจากที่ราบสูงโกลัน เนื่องจากสถานการณ์ความมั่นคงที่นั่นทวีความเลวร้ายขึ้นเรื่อยๆ
ผู้นำฟิลิปปินส์มีถ้อยแถลงเช่นนี้หลังเจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพหลายสิบคนเผชิญหน้ากับกลุ่มกบฏซีเรียที่มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์บนที่ราบสูงโกลันนาน 4 วัน แต่พวกเขาก็ยังยืนกรานไม่ยอมวางอาวุธ ก่อนจะสามารถหลบหนีออกมาได้ในตอนกลางคืน
อย่างไรก็ตาม กบฏกลุ่มนี้สามารถสั่งให้เจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพชาวฟิจิ 45 คนวางอาวุธ แล้วจับพวกเขาเป็นตัวประกัน ก่อนจะยอมปล่อยตัวพวกเขาอย่างปลอดภัย
อากีโนกล่าวว่า “เราถูกปฏิเสธเมื่อขออาวุธเพิ่ม...และกว่า (ยูเอ็น) จะตระหนักถึงสิ่งที่พวกเรากลัวก็เมื่อเหตุประจันหน้าได้เกิดขึ้นแล้ว”
อากีโนกล่าวว่า การเข้าแทรกแซงของกบฏซีเรีย ซึ่งเรียกตนเองว่า “แนวร่วมอัล-นุสรา” ได้ทำให้ภารกิจรักษาสันติภาพซึ่งแต่เดิมมีจุดมุ่งหมายเพื่อสังเกตการณ์การสงบศึกระหว่างอิสราเอลกับซีเรีย บนที่ราบสูงโกลัน ซึ่งเป็นพื้นที่กันชนระหว่างอิสราเอลกับซีเรีย ต้องประสบความยุ่งยาก
เขากล่าวว่า “ผมได้แต่ถามตนเองว่า จริงๆ แล้วภารกิจที่เราทำบนที่ราบสูงโกลันคืออะไร เราแบ่งเจ้าหน้าที่ไปประจำการทั้งในฝั่งอิสราเอลและซีเรีย จากนั้นกบฏก็เข้ามา”
อากีโนกล่าวว่า ฟิลิปปินส์จะตัดสินใจว่าจะส่งกำลังทหารกลับไปประจำการบนที่ราบสูงโกลันหรือไม่ ก็ต่อเมื่อยูเอ็นสืบสวนเหตุประจันหน้าครั้งนั้น
เขากล่าวว่า “เรากำลังรอให้ยูเอ็นสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเราจะนำเรื่องนี้ไปเป็นพื้นฐานในการตัดสินใจว่า เราจะช่วยตอบสนองความต้องการของประชาคมโลกดีหรือไม่”
ชาร์ลส์ โฆเซ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศฟิลิปปินส์กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า อากีโนได้มอบหมายให้ อัลเบิร์ต เดล โรซารีโอ รัฐมนตรีต่างประเทศเดินทางไปเข้าพบ บัน คีมูน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ เพื่อหารือกันถึงขั้นตอนการสืบสวน
โฆเซชี้แจงว่า ฟิลิปปินส์จะทบทวนเฉพาะการส่งทหารกลับไปประจำการบนที่ราบสูงโกลันเท่านั้น และฟิลิปปินส์ยังมีภารกิจรักษาสันติภาพที่ต้องทำในพื้นที่อื่นๆ
เมื่อเร็วๆ นี้ฟิลิปปินส์ได้เรียกตัวเจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพกว่า 100 คนกลับจากไลบีเรีย เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้ออีโบลา
ที่เฮติ มีเจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพฟิลิปปินส์ราว 100 คน ที่ไอวอรีโคสต์ 3 คน ที่อินเดียและปากีสถานอีก 4 คน อย่างไรก็ตาม ที่ราบสูงโกลันเป็นจุดที่แดนตากาล็อกส่งกำลังพลไปปฏิบัติภารกิจมากที่สุด