เอเจนซีส์ - มูลนิธิสัญชาติออสเตรเลีย Hands Across the Water (HATW) มอบเงินบริจาคจำนวน 240,000 ดอลลาร์ออสเตรเลียที่ผ่านการได้รับบริจาคทาง gofundme.com เพื่อเป็นเงินค่าใช้จ่ายประจำเดือนราว 531 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือ 15,000 บาท และซื้อบ้านหลังใหม่ขนาด 3 ห้องนอนสำหรับครอบครัวของภัทรมล จันทร์บัว อายุ 21 ปี มารดาอุ้มบุญชาวไทยซึ่งได้รับเลี้ยงแกรมมี่หลังจากที่หนูน้อยถูกพ่อแม่ชาวออสเตรเลียตามสายเลือดทิ้งไว้เมื่อทราบว่าแกรมมี่ป่วยเป็นโรคดาวน์ซินโดรม
เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ และซิดนีย์มอร์นิงเฮอร์รัลด์ สื่ออสเตรเลีย รายงานว่า ปีเตอร์ เบนส์ (Peter Baines) ประธานมูลนิธิ Hands Across the Water (HATW) เดินทางไปพบครอบครัวของภัทรมล จันทร์บัว แม่อุ้มบุญชาวไทย และ “แกรมมี่” ทารกอุ้มบุญชาวออสเตรเลียที่ถูกทิ้งไว้ที่ไทยในสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อมอบเงินจำนวน 240,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย ในการช่วยวางแผนอนาคตระยะยาวให้กับทารกแกรมมี่ ซึ่งในแผนการรวมไปถึงบ้านหลังใหม่ของแกรมมี่ และค่าใช้จ่ายประจำเดือนจำนวน 531 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือ 15,000 บาท ซึ่งครอบคลุมค่าใช้จ่ายต่อเดือนของแกรมมี่และบุตร 2 คนของภัทรมล โดยสื่อออสเตรเลียระบุว่าเงินจำนวนนี้มีมูลค่ามากกว่าหลายเท่าที่ภัทรมนมีรายได้จากการขายข้าวแกงรถเข็นที่ จ.ชลบุรี
ทั้งนี้ เบนส์ อดีตตำรวจออสเตรเลียได้เปิดเผยผ่านซิดนีย์มอร์นิงเฮอรัลด์รายงานในวันจันทร์ (29) ว่า “วิธีนี้จะทำให้ภัทรมนไม่ต้องออกไปขายของในช่วงกลางวัน และสามารถอยู่ที่บ้านกับแกรมมี่ได้” เบนส์กล่าวหลังจากที่เขาได้พบกับแม่อุ้มบุญชาวไทยของแกรมมี่หลายครั้งก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ ทางมูลนิธิ HATW ยังได้ช่วยจัดการจ่ายค่ารักษาพยาบาลของแกรมมี่ รวมไปถึงการบำบัดทางร่างกายและการแก้ไขการพูดที่จำเป็นสำหรับทารกน้อยที่แกรมมี่ต้องได้รับการรักษาและการบำบัดอย่างต่อเนื่องไปจนโต
สื่ออสเตรเลียรายงานเพิ่มเติมว่า “บ้านใหม่” ของแกรมมี่และครอบครัวภัทรมลนั้นทางครอบครัวจะเป็นผู้เลือก ซึ่งจะต้องอยู่ใกล้กับโรงพยาบาลเอกชนที่มีความพร้อมในการดูแลแกรมมี่ได้ และทางมูลนิธิจะเปิดเผยถึงความก้าวหน้าในเรื่องบ้านใหม่ให้กับทางผู้บริจาคเงินผ่าน gofundme.com ให้รับทราบอีกครั้งเมื่อมีการยืนยันในเรื่องนี้ ทั้งนี้ แกรมมี่เกิดเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2013 โดยเบนส์กล่าวถึงแกรมมี่ว่า “แกรมมี่เป็นเด็กผู้ชายตัวเล็กๆ ที่เข้มแข็งที่ดูมีสุขภาพดีและมีชีวิตชีวา”
ด้านสื่ออังกฤษ เดอะการ์เดียนรายงานเมื่อวานนี้ (30) ว่า เบนส์นอกจากจะพบกับแกรมมี่และครอบครัวอุ้มบุญแล้ว เขายังพบกับผู้อำนวยการโรงพยาบาลเอกชนในไทยที่ทารกแกรมมีได้เข้ารับการรักษาตัวก่อนหน้านี้เป็นเวลา 11 วัน จากโรคนิวโมเนีย “เราปรึกษาถึงแนวทางการรักษาที่จะมีต่อไปและการให้บริการของโรงพยาบาลที่จัดให้” ประธาน HATW แถลงผ่านเฟซบุ๊ก และเขายังให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุเอบีซีของออสเตรเลียในวันอังคาร (30) ว่า “บ้านใหม่ที่ทางมูลนิธิต้องการให้แกรมมี่และครอบครัวอยู่นั้นต้องมีน้ำประปาและไฟฟ้า ซึ่งถือเป็นมาตรฐานเบื้องต้นของออสเตรเลีย และรวมไปถึงยังต้องอยู่ไม่ห่างจากตัวโรงพยาบาลเอกชนที่จะให้การรักษาแกรมมี่อีกด้วย และทางมูลนิธิได้กำหนดจ่ายเงินรายเดือนให้กับครอบครัวภัทรมล”เป็นค่าใช้จ่ายประจำเดือน”
นอกจากนี้ เบนส์ยังได้พบกับผู้เชี่ยวชาญด้านดาวน์ซินโดรมของไทยเพื่อช่วยให้เข้าใจถึงสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ป่วยดาวน์ซินโดรมที่สามารถจัดหาให้ได้ในไทยในกรณีของแกรมมี่
ทั้งนี้ แผนการดูแลทารกอุ้มบุญได้ถูกวางไปจนถึงอีก 3 ปีข้างหน้า และเจ้าหน้าที่จาก HATWจะติดต่อกับครอบครัวแม่อุ้มบุญทุกสัปดาห์เพื่อดูแลการใช้จ่ายของเธอ และช่วยจัดการเรื่องการรักษาในเรื่องเกี่ยวกับแกรมมี่
และเบนส์ยังกล่าวถึงภัทรมน คุณแม่อุ้มบุญชาวไทยว่า “ภัทรมนคุณแม่ลูกสามที่รักลูกของเธอนั้นอยู่ในฐานะเหมาะสมมากกว่าใครที่จะดูแลแกรมมี่ได้ และสืบเนื่องมาจากการบริจาคจากผู้มีจิตกุศลจากทั่วโลกทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้น”
ที่ผ่านมาภัทรมนต้องประสบความยากลำบากในข่าวด้านลบเกี่ยวกับการอุ้มบุญและทารกแกรมมี่ ซึ่งล่าสุดในเดือนสิงหาคม ภัทรมนแสดงความประสงค์ต้องการเดินทางไปยังออสเตรเลียเพื่อพบกับพิพาห์ (Pipah) พี่สาวฝาแฝดของแกรมมี่ที่ถูกบิดามารดาตามสายเลือดชาวออสเตรเลียพาตัวกลับบ้าน โดยเธอให้เหตุผลว่า เธอจะขอนำพิพาห์มาเลี้ยงเองที่ไทยหากทางเจ้าหน้าที่ออสเตรเลียเชื่อว่า พิพาห์ไม่สามารถอยู่ในการดูแลของครอบครัวฟาร์เนลส์ได้ ซึ่งเดวิด ฟาร์เนล (David Farnell) บิดาตามสายเลือดของพิพาห์เคยตกเป็นผู้ต้องหาล่วงละเมิดทางเพศเด็กหญิง 3 รายมาก่อน
“ดิฉันต้องการกอดพิพาห์อีกครั้ง....ดิฉันคิดถึงแกมากทุกวัน” ภัทรมนกล่าว
และเฮอร์รัลด์ซัน สื่ออสเตรเลีย ยังรายงานเมื่อวานนี้ (30) ว่า ภัทรมนยังกล่าวถึงสัญชาติออสเตรเลียของแกรมมี่ว่า “ดิฉันทราบข่าวว่ารัฐบาลออสเตรเลียมีแนวคิดที่จะให้สัญชาติกับแกรมมี่ แต่ยังไม่มีใครติดต่อมาในเรื่องนี้ดิฉันต้องการให้แกรมมี่ได้สัญชาติออสเตรเลียในกรณีที่แกต้องการรับการรักษาเพิ่มเติมที่นั่นหากเกิดเหตุอะไรขึ้นกับดิฉัน”
ด้านรัฐมนตรีปกป้องสิทธิเด็กประจำเวสเทิร์นออสเตรเลีย เฮเลน มอร์ตัน (Helen Morton) ให้สัมภาษณ์ในสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า เดวิด ฟาร์เนล และเวนดี ฟาร์เนลได้นำพิพาห์เดินไปยังจีนเพื่อเข้าร่วมงานศพของแม่เวนดี ฟาร์เนล