เอเอฟพี – กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) อนุมัติวงเงินฉุกเฉิน 130 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แก่รัฐบาลไลบีเรีย เซียร์ราลีโอน และกินี เมื่อวานนี้(26) เพื่อใช้สกัดการแพร่ระบาดของไวรัสมรณะอีโบลา หลังมีเสียงวิงวอนให้นานาชาติยืนยันเจตนารมณ์ที่จะช่วยเหลือด้วย “ตัวเงิน”
บอร์ดบริหารไอเอ็มเอฟแถลงว่า ทางกองทุนต้องการช่วยเหลือกินี ไลบีเรีย และเซียร์ราลีโอน ในกานตอบสนองวิกฤตการระบาดของเชื้อไวรัส ซึ่งคร่าชีวิตประชาชนไปแล้วราว 3,000 คนตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 2013 เป็นต้นมา
องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ประเมินว่า การสกัดกั้นเชื้ออีโบลาอย่างได้ผลจะต้องใช้งบประมาณเกือบ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่จนบัดนี้การระดมทุนยังคงเป็นไปอย่างเชื่องช้า
รัฐบาลไลบีเรียซึ่งเป็นประเทศที่พบผู้เสียชีวิตจากอีโบลามากที่สุด 1,700 ราย แสดงความซาบซึ้งที่ผู้นำนานาชาติซึ่งเข้าร่วมประชุมสมัชชาใหญ่ยูเอ็น ณ นครนิวยอร์ก ต่างให้คำมั่นสัญญาว่าจะช่วยเหลือ แต่เตือนว่ากรุงมันโรเวียเริ่มจะไม่เชื่อมั่นว่าประชาชนจะอดทนรอได้อีกนานเท่าใด
“เรายินดีอย่างยิ่งที่ทั่วโลกเข้าใจว่าการตอบสนองต่อภัยคุกคามของเชื้ออีโบลานั้นเร่งด่วนเพียงใด” ลูอิส บราวน์ รัฐมนตรีกระทรวงข้อมูลไลบีเรีย ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี ก่อนที่ ไอเอ็มเอฟ จะแถลงการตัดสินใจมอบเงินช่วยเหลือ
“เราหวังว่าคำมั่นสัญญาเหล่านี้จะติดตามมาด้วยการกระทำ เพราะหากปล่อยให้สถานการณ์ยืดเยื้อต่อไป พลเมืองหลายๆ ชาติก็จะหมดความอดทน และจะมากล่าวโทษว่าเป็นความผิดของรัฐบาลเรา”
คริสติน ลาการ์ด กรรมการผู้จัดการใหญ่ไอเอ็มเอฟ ระบุในถ้อยแถลงว่า การแพร่ระบาดของเชื้ออีโบลารอบนี้ได้คร่าชีวิตผู้คนมากมายจนเกินไปแล้ว
“ไอเอ็มเอฟ ได้ประสานงานอย่างเต็มที่กับรัฐบาลของประเทศที่พบผู้ติดเชื้อ ตลอดจนหุ้นส่วนด้านการพัฒนาของประเทศเหล่านั้น เพื่อให้มั่นใจว่าการระบาดของโรคจะสามารถควบคุมได้โดยเร็วที่สุด และจะสนับสนุนมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจที่จะติดตามมาด้วย”
ไอเอ็มเอฟ พร้อมเบิกจ่ายวงเงินช่วยเหลือแก่ทั้ง 3 ประเทศในทันที ประกอบด้วยเงิน 41 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับกินี, 49 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับไลบีเรีย และอีก 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับเซียร์ราลีโอน