เอเอฟพี - โทนี แบลร์ อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษและทูตสันติภาพตะวันออกกลาง กล่าววันจันทร์ (22) ว่าประเด็นการส่งทหารราบเข้าไปต่อสู้กับกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ยังไม่ควรถูกตัดทิ้งไป
แบลร์ ซึ่งเป็นผู้ส่งกองกำลังอังกฤษไปร่วมสงครามในอิรักและอัฟกานิสถาน กล่าว่า เขารู้ซึ้งถึงความยากลำบากของการเคลื่อนไหวเช่นนี้พอๆกับทุกคน แต่ยืนยันว่ามันควรถูกนับรวมอยู่ในทางเลือกด้วย
กลุ่มนักรบญิฮาดไอเอสควบคุมพื้นที่จำนวนมากของซีเรียและอิรัก ขณะที่เสียงเรียกร้องให้ดำเนินการตอบโต้พวกเขาให้หนักยิ่งขึ้น ตามหลังเผยแพร่วิดีโอฆ่าตัดศีรษะนักข่าวอเมริกัน 2 คนและผู้ปฏิบัติงานบรรเทาทุกข์ชาวอังกฤษ 1 คนในซีเรีย
ด้านสหรัฐฯกำลังปฏิบัติการโจมตีทางอากาศเพื่อกวาดล้างกลุ่มไอเอสในอิรักนับตั้งแต่เดือนที่แล้ว ขณะที่ฝรั่งเศสเข้าร่วมการโจมตีทางอากาศนี้ด้วยตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ (19)ที่ผ่านมา
“ผมยอมรับอย่างไร้ข้อกังขาว่า ในตะวันตกไม่มีใครปรารถนาการทำสงครามภาคพื้นดิน” แบลร์เขียนในบทความหนึ่งบนเว็บไซต์ของมูลนิธิโทนี แบลร์ เฟท ฟาวเดชัน (Tony Blair Faith Foundation)
“แต่เราไม่ควรตัดตัวเลือกนี้ทิ้ง ถ้ามันมีความจำเป็นอย่างแท้จริงในอนาคต หากว่าได้รับความยินยอมจากพลเมืองที่ถูกคุกคามโดยตรง และด้วยพันธมิตรกว้างขวางที่สุดที่สามารถหามาได้ เมื่อโอกาสนั้นมาถึง เราจำเป็นต้องแสดงบทบาทในส่วนของเรา”
เขาเสริมว่า กำลังทางอากาศเพียงอย่างเดียว “จะไม่เพียงพอ” ในการสู้รบกับกลุ่มไอเอส
“พวกเขาอาจถูกโอบล้อม , ก่อกวน และจำกัดขีดความสามารถได้ด้วยอำนาจทางอากาศ แต่พวกเขาไม่อาจถูกกำราบได้ด้วยสิ่งนี้” เขากล่าวเสริม
“คุณไม่มีทางถอนรากถอนโคนกลุ่มก่อการร้ายนี้ได้ จนกว่าจะเข้าไปถึงถิ่นกำเนิดของมันและสู้กับมัน”
แบลร์ เห็นความขัดแย้งในอิรักและซีเรียครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของปัญหาที่หนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆที่โลกต้องเผชิญกับพวกอิสลามสุดโต่ง ซึ่งก็แพร่ขยายความไม่สงบในปากีสถาน , ไนจีเรีย , มาลี และมณฑลซินเจียงของจีนด้วย
“นี่ไม่ใช่การปะทะกันของอารยธรรม แต่มันคือการต่อสู้กันระหว่างผู้ที่เชื่อในการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข กับพวกหัวรุนแรงที่ใช้ศาสนาเป็นแหล่งของความรุนแรงและความขัดแย้ง” เขาเขียน