น้ำมันลงแรง หุ้นสหรัฐฯ ขึ้น-ทองคำร่วงหลังเฟดคงดอกเบี้ย

เอเอฟพี - ราคาน้ำมันลดลงวานนี้ (18 ก.ย.) ยังอยู่ภายใต้แรงกดดันจากข้อมูลเชื้อเพลิงสำรองของสหรัฐฯ และโอเปกแย้มอาจไม่ลดกำลังผลิต ส่วนวอลล์สตรีททุบสถิติตลอดกาลรอบใหม่และทองคำลงต่ำสุดตั้งแต่สิ้นปี หลังเฟดไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ย

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง 1.35 ดอลลาร์ ปิดที่ 93.07 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 1.27 ดอลลาร์ ปิดที่ 97.70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันยังคงอยู่ใต้แรงกดดันจากรายงานคลังเชื้อเพลิงสำรองรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ หลังพบว่าสต๊อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นถึง 3.7 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่ตลาดคาดหมายไว้ว่าน่าจะลดลงราวๆ 1.2 ล้านบาร์เรล

เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา นายอับดุลเลาะห์ เอล-บาดรี เลขาธิการโอเปก แย้มว่าทางกลุ่มอาจลดกำลังผลิตลงในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งช่วยพยุงราคาน้ำมันฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี แต่ในวันพฤหัสบดี (18 ก.ย.) ดาวโจนส์ นิวส์ไวร์ส อ้างคำพูดของคณะผู้แทนโอเปก บอกว่ายังไม่มีความเป็นไปได้ที่ทางกลุ่มจะลดการผลิตลง

ด้านดาวโจนส์และเอสแอนด์พี 500 พุ่งทุบสถิติตลอดกาลรอบใหม่วานนี้ (18 ก.ย.) หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำเตี้ยติดพื้นต่อไปอีกระยะ

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 109.14 จุด (0.64 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17,265.99 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 9.79 จุด (0.49 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,011.36 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 31.24 จุด (0.68 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,593.43 จุด

ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) แถลงในวันพุธ (17 ก.ย.) ว่า จะยุติโครงการรับซื้อพันธบัตร ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนาม “การผ่อนคลายเชิงปริมาณ” (QE) ในเดือนตุลาคมนี้ แต่ก็ยังคงพูดถึงแนวโน้มของอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในอเมริกาด้วยถ้อยคำเดิมๆ นั่นก็คือ จะยังคงอยู่ในระดับใกล้ๆ 0 เปอร์เซ็นต์เช่นนี้ต่อไปเป็น “ระยะเวลานานพอดู”

ปัจจัยนี้ผลักให้นักลงทุนขายทองคำและหันไปหาสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆที่ให้ผลตอบแทนมากกว่า ซึ่งก็เป็นผลให้ราคาโลหะมีค่าชนิดนี้ในวันพฤหัสบดี (18 ก.ย.) ปิดต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคมปีก่อน โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 9 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,226.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์