เอเอฟพี - เครื่องบินของกองทัพเม็กซิโก และอากาศยานพาณิชย์วานนี้ (16 ก.ย.) เริ่มอพยพนักท่องเที่ยวที่ติดแหง็กอยู่ในแหล่งพักตากอากาศโลสกาโบส ภายหลังพายุเฮอริเคน “โอดิเล” ทำให้แก่โรงแรมที่พักและชุมชนต่างๆ ในพื้นที่เสียหายยับเยิน
นักท่องเที่ยวราว 30,000 คน รอขึ้นเครื่องบินออกจากพื้นที่ประสบภัยในคาบสมุทรบาฮากาลิฟอร์เนียอย่างใจจดใจจ่อ หลังจากเฮอริเคนโอดิเล เคลื่อนตัวถล่มพื้นที่นี้เมื่อวันอาทิตย์ (14) และวันจันทร์ (15) ก่อนจะอ่อนกำลังลงจนกลายเป็นพายุโซนร้อนในที่สุด
เนื่องจากไม่มีปั๊มน้ำมันแห่งไหนเปิดให้บริการ นักท่งเที่ยวหลายร้อยคนจึงต้องเดินลากกระเป๋าไปยังสนามบินโลสกาโบส ที่มีสภาพเสียหายหนัก เพื่อโดยสารเที่ยวบินออกจากพื้นที่ประสบภัย
ชีลลา โรช นักศึกษามหาวิทยาลัยอเมริกันซึ่งวางแผนจะเดินทางกลับบ้านตั้งแต่เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (14) ซึ่งเป็นคืนที่พายุเคลื่อนตัวเข้าสู่ฝั่งเป็นคืนแรกกล่าวว่า “ดิฉันต้องยืนเข้าคิวรอนานเกือบชั่วโมงท่ามกลางอากาศร้อนระอุเหมือนนรก แต่ก็ถือว่าคุ้มนะถ้าได้เดินทางออกจากที่นี่”
ท่าอากาศยานตลอดจนอาคารที่พักผู้โดยสารระหว่างประเทศอีกหลังหนึ่งในเมืองลาปาซ อยู่ในสภาพชำรุดหลังเกิดพายุ อาคารที่พักผู้โดยสารที่โลกาโบสไม่มีไฟฟ้า เพดานถล่ม และหน้าต่างแตกไปหลายบาน
ตำรวจเม็กซิโกกล่าวว่า เครื่องบินลำหนึ่งในฝูงบินอพยพได้นำผู้โดยสาร 137 คนไปส่งยังเมืองมาซัตลาน สายการบิน “อินเตอร์เจ็ต” ของแดนจังโก้ ได้ส่งเครื่องบินลำหนึ่งไปรับผู้โดยสาร 150 คน ขณะที่กองทัพเม็กซิโกได้ส่งเครื่องบินทหารไปรับประชาชนที่ในพื้นที่ประสบภัยไปส่งที่เมืองติฮัวนา และกรุงเม็กซิโกซิตี
สถานกงสุลสหรัฐฯ อังกฤษ และแคนาดาได้ส่งเจ้าหนน้าที่ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือพลเมืองของประเทศตน
พายุโอดิเล ที่บุกถล่มเมื่อวันอาทิตย์ (14) ได้บีบให้ชาวต่างชาติราว 26,000 คน และชาวเม็กซิกันที่เดินทางมาท่องเที่ยวตามชายหาด 4,000 คนต้องหนีไปหลบภัยอยู่ตามโรงแรมที่อยู่ใกล้เคียง
อย่างไรก็ตาม กระทั่งแหล่งพักตากอากาศที่ดูมั่นคงแข็งแรงก็ยังไม่สามารถต้านทานกำลังของเฮอริเคนลูกนี้ซึ่งทำหน้าต่างโรงแรมแตก น้ำท่วมห้องพัก และพัดกวาดต้นปาล์มล้มระเนระนาดลงสระว่ายน้ำได้สำเร็จ
เจ้าหน้าที่กล่าวว่า ไม่มีผู้เสียชีวิตจากพายุลูกนี้ แต่มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เป็นต้นว่ามีบาดแผลระหว่างหลบภัย 135 คน
ด้านนอกสนามบิน เจ้าของร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งออกมาแจกอาหารและน้ำให้แก่ผู้คนที่เดินผ่านมา
ขณะที่เหล่านักท่องเที่ยวกำลังทยอยเดินทางออกจากพื้นที่ประสบภัย ชาวบ้านก็เริ่มออกมาสำรวจดูสภาพความเสียหายที่เกิดขึ้นจากพายุโอดิเล
บ้านเรือนที่สร้างด้วยไม้และมุงหลังคาสังกะสีหลายสิบหลังในย่านแห่งหนึ่งพังราบเป็นหน้ากลอง ต้นไม้และสายไฟฟ้าล้มระเนระนาดพาดทับบ้านเรือนและรถยนต์ ขณะที่น้ำไม่ไหลและไฟดับ
นอกจากนี้ โอดิเล ยังจุดชนวนให้บรรดาหัวขโมยบุกปล้นสะดมสินค้าในร้านจำหน่ายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และซูเปอร์มาร์เก็ตที่กำลังขาดแคลนข้าวของเครื่องใช้ยามจำเป็นอย่างน้ำ อาหาร และกระดาษชำระ
*** ภัยคุกคามระลอกใหม่ ***
ขณะที่โอดิเล อ่อนกำลังลงจนกลายเป็นพายุโซนร้อน สำนักงานเฮอริเคนแห่งชาติสหรัฐฯ (เอ็นเอชซี) ก็ประกาศเตือนว่า พายุลูกนี้ยังอาจทำให้เกิดฝนตกหนักในบางพื้นที่ของคาบสมุทรบาฮากาลิฟอร์เนีย และภาคตะวันตกเฉียงเหนือของเม็กซิโก ตลอดจนภาคตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐฯ
ศูนย์เตือนที่มีสำนักงานใหญ่ในเมืองไมแอมีแห่งนี้ชี้ว่า พายุลูกนี้มีความเร็วลมใกล้ศูนย์กลาง 85 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และฝนที่เทกระหน่ำลงมายังมีแนวโน้มจะชักนำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และดินถล่มที่เป็นอันตรายต่อชีวิต
นักพยากรณ์อากาศอเมริกันระบุว่า คาดการณ์กันว่าขณะที่พายุโอดิเลกำลังมุ่งหน้าไปทางเหนือ พายุโซนร้อนลูกใหม่ชื่อว่า “โปโล” ซึ่งก่อตัวนอกชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของเม็กซิโกจะทวีความแรงกลายเป็นพายุเฮอร์ริเคน ในช่วงดึกคืนนี้ (17)
เมื่อค่ำวานนี้ (16) พายุโปโล เคลื่อนตัวในจุดที่อยู่ห่างจากเมืองอกาปุลโก ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ 375 กิโลเมตร โดยแหล่งพักตากอากาศอันเลื่องชื่อของรัฐเกร์เรโร แห่งนี้เพิ่งได้รับความเสียหายจากพายุเฮอริเคนในช่วงเวลาเดียวกันนี้ของปีที่แล้ว
คาดการณ์กันว่า พายุโปโลซึ่งมีความเร็วลมใกล้ศูนย์กลาง 85 กิโลเมตรต่อชั่วโมงจะยังอยู่นอกชายฝั่ง ขณะที่เคลื่อนตัวไปทางเหนือขนานกับชายฝั่งเม็กซิโกด้านมหาสมุทรแปซิฟิก
