เอเจนซีส์ - คลิปวิดีโอล่าสุดบ่งชี้ว่า ไมเคิล บราวน์ (Michael Brown) วัยรุ่นผิวสี อายุ 18 ปี ถูกยิงในขณะที่มือทั้งสองข้างชูขึ้นในอากาศพร้อมกับพูดว่า “โอเค โอเค” และถูกยิงอย่างต่อเนื่องหลังจากเขาพยายามกระเสือกกระสนหนีจากปากกระบอกปืน
CNN สื่อสหรัฐฯ ได้เปิดเผยหลักฐานล่าสุดในคดีไมค์ บราวน์ (Michael Brown) วัยรุ่นผิวสี อายุ 18 ปี ต้นเรื่องจลาจลครั้งประวัติศาสตร์ในเฟอร์กูสัน รัฐมิสซูรี ซึ่งจากเหตุการณ์ในคลิปแสดงถึงพยานจำนวนหนึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุเห็นบราว์นโดนตำรวจเฟอร์กูสัน ดาร์เรน วิลสัน (Darren Wilson) ยิงทั้งๆ ที่อยู่ในสภาพยอมจำนน และไม่มีอาวุธติดตัวในต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยพยานแสดงอาการเลียนแบบบราวน์โดยการยกมือขึ้น และแสดงความคิดเห็นว่าเขายอมแล้ว ยังยิงเขาอีก
“เด็กหนุ่มคนนั้นชูมือขึ้นเหนือหัวแล้วนะโว้ย!!!” เป็นเสียงในคลิปที่ถ่ายไว้ในขณะเกิดเหตุโดยพยานอาชีพก่อสร้างที่ปรากฏตัวในคลิปกล่าวตะโกนด้วยความไม่พอใจเมื่อเห็นวิลสันยิงบราวน์ โดยพยานคนนี้ยืนยันว่าไม่ได้มาจากเฟอร์กูสันและไม่ต้องการเปิดเผยตัวตนให้สัมภาษณ์กับ CNN สื่อสหรัฐฯ และกล่าวอีกครั้งว่า “บราวน์เสียชีวิตขณะอยู่สภาพชูมือยอมจำนน”
“ตำรวจไม่ได้ตะโกนสั่งว่านอนราบกับพื้น แต่ยังเปิดฉากยิงต่อไปไม่หยุด ผมเห็นสมองของบราวน์ไหลลงพื้นในที่เกิดเหตุ” และยังยืนยันอีกครั้งว่า “บราวน์ชูมือยอมจำนนแล้ว” พยานในเหตุการณ์กล่าว
นอกจากนี้ พยานอีกคนที่ปรากฏในคลิปชายเป็นช่างก่อสร้างเช่นเดียวกันให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า บราวน์พยายามจะวิ่งหนีรถตำรวจ “บราวน์ชูมือเหนือหัว และตำรวจกำลังไล่ล่าเขา”
การให้ข้อมูลของพยานทั้งสองนี้ตรงกับปากคำของพยานคนอื่นๆในที่เกิดเหตุซึ่งล้วนกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า “มือทั้ง 2 ข้างของบราวน์ชูขึ้นในขณะถูกยิง” แต่พยานช่างก่อสร้าง 2 คนนี้ระบุว่า เขาทั้งคูไม่ได้เห็นเหตุการณ์ตั้งแต่เริ่มแรก ซึ่ง CNN รายงานว่าคลิปชิ้นนี้ถ่ายจากกล้องโทรศัพท์มือถือของหนึ่งในคนที่เห็นเหตุการณ์แต่ไม่ต้องการจะเปิดเผยชื่อ
ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายได้ให้ความเห็นกับ CNN ว่า หลักฐานคลิปชิ้นล่าสุดนี้ถือเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญมัดตัววิลสันในชั้นศาลเพราะถือเป็นปฏิกิริยาหลังเกิดเหตุ
“พวกเขากล่าวว่าบราวน์ชูมือขึ้นสองข้างขณะวิ่งหนีตำรวจ ซึ่งผมไม่ทราบถึงการให้ปากคำของพยานคนอื่นหรือไม่ได้รับทราบข้อมูลอื่น แต่แน่นอนที่สุด “การชูมือทั้งสองข้างในอากาศ” เป็นสัญลักษณ์สากลของการแสดงยอมจำนน” ซันนี โฮสติน (Sunny Hostin) นักวิเคราะห์ด้านกฎหมายประจำ CNN และอดีตอัยการรัฐบาลกลางสหรัฐฯ แสดงความเห็น
การเสียชีวิตของบราวน์ทำให้เกิดจลาจลขึ้นในเฟอร์กูสัน และมีกองทัพตำรวจเข้ามาควบคุมสถานการณ์จนกระทั่งผู้ว่าการรัฐมิสซูรีต้องออกเคอร์ฟิว และระดมทหารประจำรัฐ หรือแนชันแนลการ์มาช่วยสมทบ จนทำให้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ผู้นำผิวสีคนแรก บารัค โอบามาต้องออกมาแถลงให้อยู่ในความสงบ และสัญญาจะคืนความยุติธรรมให้กับบราวน์ และส่งอีริก โฮเดอร์ รัฐมนตรียุติธรรมอเมริกาผิวสีลงพื้นที่ด้วยตนเอง
โดยในสัปดาห์ที่ผ่านกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ประกาศจะขยายการตรวจสอบตำรวจเมืองเฟอร์กูสันทุกนายว่าทำผิดรัฐธรรมนูญสหรัฐฯด้วยการละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือไม่ จากคำร้องเรียนของชาวเมืองเฟอร์กูสันที่ประชาชนส่วนใหญ่เป็นชาวแอฟริกันอเมริกันแต่มีเจมส์ โนเลส (James Knowles) นายกเทศมนตรีเมืองเป็นคนผิวขาว รวมไปถึงตำรวจของเมืองส่วนใหญ่เป็นอเมริกันผิวขาวว่า ตำรวจใช้ระบบคัดกรองผู้ต้องสงสัยจากสีผิวของเป้าหมาย (racial profiling) เป็นหลัก และมีการเหยียดสีผิวด้วยวิธีอื่น่อีก