ข่าวดีชาวสีรุ้งรับวาเลนไทน์ "ยุติธรรมสหรัฐฯ" ประกาศขยายสิทธิ "คู่สมรสเกย์" เท่าเทียมคู่ชายจริงหญิงแท้

รอยเตอร์ - รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ อีริก โฮลเดอร์ได้ประกาศในวันเสาร์(8)ถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯได้ขยายสิทธิทางกฎหมายของคู่สมรสเพศเดียวกันให้มีความเสมอภาคเท่าเทียมกับคู่สมรสต่างเพศ เช่น การอนุญาตให้คู่สมรสเกย์ไม่ต้องขึ้นให้การในชั้นศาลยืนยันความผิดต่อคู่สมรสในคดีแพ่งและอาญา ซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็นการแก้ปัญหาที่อีก 33 รัฐทั่วสหรัฐฯยังไม่รับรองการแต่งงานของคนเพศเดียวกัน

การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ถูกเปิดเผยจาก รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ อีริก โฮลเดอร์ ที่ได้กล่าวสุนทรพจน์ต่อกลุ่มล็อบบี้เคลื่อนไหวเพื่อสิทธิชาวรักร่วมเพศสหรัฐฯในนิวยอร์กในวันเสาร์(8) ที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯได้ตัดสินใจต่อยอดผลักดันหลังจากศาลสูงสหรัฐฯได้ตัดสินในปีที่ผ่านมาว่า รัฐบาลกลางสหรัฐฯไม่สามารถเพิกเฉยต่อสิทธิคู่สมรสชาวเกย์ในรัฐที่ได้ประกาศรับรองการแต่งงานของคู่รักชาวสีรุ้ง

ในขณะนี้มีเพียง 17 รัฐ รวมถึงเขตโคลัมเบีย ที่ได้รับรองการแต่งงานของชาวรักร่วมเพศ ในขณะที่อีก 33 รัฐทั่วสหรัฐฯยังประกาศห้ามอยู่

นอกจากนี้ ที่ผ่านมากฏหมายสหรัฐฯได้กำหนดความคุ้มครอง “เอกสิทธิ์ของคู่สมรส” ที่ป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายขึ้นให้การในชั้นศาลเพื่อเป็นโทษในคดีคู่สมรสตนเอง

ซึ่งการคุ้มครองนี้ในขณะนี้ได้ขยายไปสู่คู่สมรสชาวเกย์ในสถานการณ์ที่ต้องขึ้นสู่ศาล ซึ่งโฮลเดอร์ได้เผยต่อกลุ่มสิทธิมนุษยชนว่า เขามีแผนที่จะผลักดันให้สิทธิทางกฏหมายของคู่สมรสเพศเดียวกันนั้นมีความเท่าเทียมกับคู่สมรสต่างเพศ รวมถึงในกรณีที่คู่สมรสถูกสั่งให้เป็นบุคคลล้มละลาย และนโยบายการเข้าเยี่ยมในเรือนจำกลางสหรัฐฯ

“ในทุกศาล ในทุกกระบวนการทางยุติธรรม และทุกที่ซึ่งเจ้าหน้าที่ของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯทำหน้าที่ในฐานะเป็นตัวแทนรัฐบาลสหรัฐฯ พวกเขาจะทำให้มั่นใจว่าคู่สมรสเพศเดียวกันต้องได้รับเอกสิทธิ์ ความคุ้มครอง สิทธิต่างๆเท่าเทียมกับที่คู่สมรสต่างเพศพึงได้รับภายใต้กฏหมายรัฐบาลกลางสหรัฐฯ” โฮลเดอร์แถลง

และในบันทึกภายในที่เจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯได้รับภายในวันนี้(10) ซึ่งมีเนื้อหาสั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกคนปฎิบัติอย่างเสมอภาคกับคู่สมรสชาวเกย์เช่นเดียวกับที่ปฎิบัติกับคู่สมรสต่างเพศภายใต้กฏหมายรัฐบาลกลางสหรัฐฯ อ้างจากแถลงการณ์ของโฮลเดอร์

ซึ่งในเดือนมิถุนายน 2013 ศาลสูงสหรัฐฯได้พิพากษาให้กฎหมายพิทักษ์การแต่งงานในปี 1996 หรือ DOMA ที่ปฎิเสธไม่ให้รัฐบาลกลางสหรัฐฯยอมรับการแต่งานของคู่สมรสชาวสีรุ้งนั้นขัดกับกฎหมายรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ ซึ่งอีดิต วินด์เซอร์ เลสเบียนที่เป็นม่ายได้ฟ้องรัฐบาลสหรัฐฯหลังจากที่เธอถูกบังคับให้จ่ายภาษีมรดกเพิ่มเติมถึง363,053 ดอลลาร์ เพราะกฏหมายไม่ยอมรับการแต่งงานของเธอที่ได้จดทะเบียนสมรสในแคนาดา เมื่อปี 2007

นับตั้งแต่คดีของวินด์เซอร์เป็นต้นมา รัฐบาลของประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา ได้พยายามอย่างหนักเพื่อปรับปรุงกฏหมาย เช่น การเข้าเมือง และสวัสดิการของเจ้าหน้าที่รัฐ

นอกจากนี้โฮลเดอร์ยังได้ขยายสิทธิคู่สมรสชาวเกย์ในเรื่องการรับผลประโยชน์เนื่องมาจากการเสียชีวิตของคู่สมรสในกรณีที่คู่สมรสเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งได้เสียชีวิตในขณะปฎิบัติหน้าที่ และรวมไปถึงผลประโยชน์จากเงินทุนเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายในเหตุการณ์ถล่มตึกเวิล์ดเทรด ซึ่งกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯเป็นผู้รับผิดชอบทั้ง2โครงการนี้

ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบการเคลื่อนไหวเรียกร้องสิทธิเพื่อคนรักร่วมเพศกับการเคลื่อนไหวเรียกร้องสิทธิเมนุษยชนในยุค 60ที่โรเบิร์ต เคนเนดีดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมเป็นเวลา 4 ปี โฮลเดอร์ได้ย้ำว่า เป็นความจำเป็นที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯต้องดำเนินการในเรื่องนี้ “ในฐานะที่เป็นรัฐมนตรียุติธรรมสหรัฐฯ ผมจะไม่ยอมให้กระทรวงยุติธรรมเป็นเหมือนแค่คนที่คอยเฝ้าดูสถานการณ์ในการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์อเมริกา” โฮลเดอร์แถลงต่อ

“และการเปลี่ยนแปลงครั้งประวัติศาสตร์นี้จะทำให้ชีวิตของคู่สมรสชาวเกย์จำนวนมากดีขึ้น” ชาด กริฟฟิน ประธานกลุ่มสิทธิมนุษยชนแถลงตอกย้ำผ่านแถลงการณ์

กริฟฟินยังเสริมต่อว่า “ในขณะที่ผลกระทบที่เกิดขึ้นทันทีในนโยบายนี้ ที่คู่สมรสเพศเดียวกันจะได้รับการปฎิบัติอย่างเสมอภาคภายใต้กฎหมายสหรัฐฯ และผลกระทบในระยะยาวที่ตามมานั้นจะสร้างความเปลี่ยนแปลงในวงกว้าง วันนี้สหรัฐฯได้เข้าใกล้ความเสมอภาคและยุติธรรมต่อทุกคน”

ซึ่งในอีก 33 รัฐของสหรัฐฯที่ยังถือว่าการแต่งงานระหว่างเพศผิดกฏหมาย ความคุ้มครอง “เอกสิทธิ์คู่สมรส” ในคู่สมรสเพศเดียวกันนั้นยังไม่ครอบคลุม เช่น ในเดือนกันยายน 2013 ผู้พิพากษาของศาลรัฐเคนตักกีได้ปฎิเสธที่จะให้ “เอกสิทธิ์คู่สมรส” ตามคำขอของคู่สมรสหญิงชาวรักร่วมเพศที่ร้องขอเพื่อไม่ให้เธอต้องขึ้นให้การที่เป็นผลลบต่อคู่สมรสของเธอในคดีอาญาโทษประหารชีวิต