รอยเตอร์/เอเจนซีส์ – ระบุนักรบญิฮัดกลุ่ม “รัฐอิสลาม” (ไอเอส) ปรากฏตัวระดมหาสมาชิกในอินเดียและปากีสถาน เหยียบจมูกพวกตอลิบานและอัล-กออิดะห์ อาจเป็นสาเหตุทำให้เครือข่ายก่อการร้ายเจ้าเก่าที่ก่อตั้งโดยอุซามะห์ บิน ลาดิน และมี อัยมาน อัล-ซอวาฮิรี เป็นผู้นำคนปัจจุบัน ต้องออกมาประกาศจัดตั้งสาขาใหม่ในเอเชียใต้เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว
กลุ่ม จามัต-อุล อะห์รอร์ ที่แยกตัวมาจากกลุ่มตอลิบานปากีสถาน ประกาศออกมาแล้วว่าพร้อมให้การสนับสนุนกลุ่มญิฮัดไอเอส ที่มีทุนหนาและประกาศศักดาครอบครองพื้นที่กว้างขวางในอิรักและซีเรียเพื่อสถาปนาระบบคอลีฟะห์ หรือระบบปกครองรัฐกาหลิบอิสลาม ขึ้นมา
พวกผู้เชี่ยวชาญทางด้านความมั่นคงระบุว่า ปัจจุบันกลุ่มไอเอสได้เข้าไปชักชวนคนหนุ่มในเอเชียใต้ ให้เข้าร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับพวกตนแล้ว ถึงแม้ในภูมิภาคดังกล่าวมีกลุ่มอิสลามิสต์กลุ่มอื่นๆ แผ่ขยายอิทธิพลอยู่ก่อนนมนานแล้วก็ตาม
ในทางกลับกัน เหล่าผู้นำของกลุ่มอัล-กออิดะห์ ซึ่งมีอายุมากแล้วและส่วนใหญ่กบดานอยู่ตามแนวชายแดนปากีสถาน-อัฟกานิสถาน กำลังถูกมองว่าตกยุค อ่อนล้า และไร้ประสิทธิภาพในการระดมหาสมาชิกรุ่นใหม่ๆ ผ่านทางฟอรัมสื่อสังคมและทวิตเตอร์
การที่ไอเอสกำลังมีเสน่ห์เย้ายวนใจมากขึ้นเรื่อยๆ เช่นนี้เอง บีบบังคับให้ ซอวาฮิรี ผู้นำอัล-กออิดะห์ คนปัจจุบัน ต้องออกมาประกาศจัดตั้งสาขาแห่งใหม่ขึ้นในอนุทวีปอินเดีย เป็นการชักธงรบในเอเชียใต้ที่มีประชากรมุสลิมกว่า 400 ล้านคน
กลุ่มที่ภักดีต่อไอเอสในบริเวณชายแดนอัฟกานิสถาน-ปากีสถาน มีความเคลื่อนไหวเพื่อส่งเสริมอิทธิพลของขบวนการก่อการร้ายกลุ่มนี้ ด้วยการนำแผ่นพับไปแจกในค่ายผู้อพยพชาวอัฟกัน ซึ่งอยู่ในเมืองเปชาวาร์ของปากีสถาน ตลอดจนในบริเวณภาคตะวันออกของอัฟกานิสถานในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งนี้ตามคำบอกเล่าของชาวบ้านหลายๆ ราย
ชาวบ้านยังเล่าว่า เห็นรถติดสติ๊กเกอร์ไอเอสหลายคัน แล่นอยู่รอบๆ เมืองเปชาวาร์
ซามีเลาะห์ ฮานิฟี ผู้นำการละหมาดในย่านซึ่งผู้คนจำนวนมากเป็นชาวอัฟกัน ในเมืองเปชาวาร์ เผยว่า ใบปลิวดังกล่าวแจกโดยกลุ่มที่ใช้ชื่อว่า อิสลามิ คอลิฟัต ซึ่งเป็นกลุ่มท้องถิ่นที่ไม่เป็นที่รู้จักมากนักแต่ให้การสนับสนุนไอเอสอย่างเปิดเผย
แผ่นพับดังกล่าวซึ่งมีจำนวน 12 หน้า ใช้ชื่อว่า “ฟาตะห์” (ชัยชนะ) โดยมีทั้งภาษาปาชตุน และ ดารี ของอัฟกานิสถาน รวมทั้งมีโลโก้ปืนเอเค-47 พร้อมข้อความเรียกร้องการสนับสนุนกลุ่มไอเอส
ด้านเจ้าหน้าที่ความมั่นคงของปากีสถานคนหนึ่งระบุว่า ใบปลิวของไอเอสมาจากจังหวัดคูนาร์ ของอัฟกานิสถาน โดยมีคนเห็นว่า นักรบตอลิบานกลุ่มหนึ่งเป็นผู้นำไปแจกจ่าย ซึ่งนอกจากใบปลิวแล้วยังมีซีดี แผนที่ และบทความทั้งภาษาปาชตุน ดารี และเปอร์เซีย
เจ้าหน้าที่คนเดิมยังบอกอีกว่า รัฐบาลปากีสถานจะไม่ยอมให้กลุ่มไอเอสแทรกซึมเข้าไปในประเทศ และจะจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มนี้ทั้งหมด
นอกจากปากีสถานและอัฟกานิสถานแล้ว ยังปรากฏสัญญาณว่า ไอเอสเริ่มเข้าไปแพร่อิทธิพลในแคว้นแคชเมียร์ ซึ่งเป็นดินแดนที่ทั้งอินเดียและปากีสถานต่างอ้างกรรมสิทธิ์ และเป็นพื้นที่ที่มีการสู้รบยาวนานระหว่างกลุ่มหัวรุนแรงกับรัฐบาลอินเดีย
พวกเจ้าหน้าที่ความมั่นคงในดินแดนแคชเมียร์ส่วนที่ปกครองโดยอินเดียบอกว่า พวกเขากำลังพยายามหยั่งระดับความสนับสนุนที่ไอเอสได้รับอยู่ในเวลานี้ หลังจากพบธงและแบนเนอร์ของกลุ่มนี้ปรากฏในสถานที่ต่างๆ ครั้งแรกเมื่อวันที่ 27 มิถุนายนในเมืองศรีนาคา ซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐนี้ และอีกครั้งในเดือนกรกฎาคม เมื่อแคชเมียร์ ซึ่งเป็นรัฐเดียวของอินเดียที่ชนส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม เฉลิมฉลองเทศกาลอิด อัล-ฟิตร์
กระนั้น เจ้าหน้าที่อินเดียคนหนึ่งกล่าวว่า ผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลนิวเดลีในแคชเมียร์ที่ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น ยังคงมุ่งมั่นกับการแยกตัวจากอินเดีย มากกว่าการเข้าร่วมกลุ่มลัทธิทางศาสนาหรือกลุ่มหัวรุนแรง
อย่างไรก็ดี กลุ่มไอเอสมิได้จำกัดตัวอยู่เฉพาะในแคชเมียร์เท่านั้น แต่ยังพยายามชักชวนชาวมุสลิมในพื้นที่อื่นๆ ของอินเดียอีกด้วย ตัวอย่างเช่น ช่วงกลางเดือนกรกฎาคม มีการเผยแพร่วิดีโอรับสมัครนักรบทางออนไลน์ โดยมีคำบรรบายภาษาฮินดี ทมิฬ และอูรดู ซึ่งใช้กันแพร่หลายในบริเวณต่างๆ ของอินเดีย โดยในคลิปมีภาพนักรบแคนาดาถือปืนและธงดำ เรียกร้องชาวมุสลิมเข้าร่วมสงครามศักดิ์สิทธิ์ทั่วโลก
คลิปดังกล่าวปรากฏขึ้นไม่กี่สัปดาห์หลังจากที่ประชาชน 4 ครอบครัวชานเมืองมุมไบแจ้งตำรวจว่า ลูกชายหายตัวไประหว่างเดินทางไปแสวงบุญที่อิรัก โดยหนึ่งในนั้นทิ้งจดหมายที่พูดถึงการรบเพื่อปกป้องศาสนาอิสลามไว้
หน่วยข่าวกรองอินเดียเชื่อว่า ชายหนุ่มกลุ่มนี้เดินทางไปยังเมืองโมซุล ที่ถูกไอเอสยึดในเดือนมิถุนายน และหนึ่งในนั้นอาจเสียชีวิตจากระเบิด
นอกจากนั้น สัปดาห์ที่แล้ว หนังสือพิมพ์ไทมส์ ออฟ อินเดียรายงานว่า ชายหนุ่ม 4 คน ซึ่งมี 2 คนเป็นนักศึกษาวิศวกรรมศาสตร์ ถูกจับกุมที่เมืองกัลกัตตาขณะพยายามเดินทางเข้าสู่บังกลาเทศ เพื่อเข้าร่วมกับผู้ระดมรับสมัครสมาชิกใหม่รายหนึ่งของไอเอส ซึ่งตั้งฐานอยู่ที่นั่น
เจ้าหน้าที่อาวุโสในหน่วยข่าวกรองอินเดียในนิวเดลีทิ้งท้ายว่า ปัญหาสำคัญที่เป็นอุปสรรคในการสกัดขัดขวางไอเอส ก็คือการขาดข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มนี้ เนื่องจากไอเอสใช้วิธีระดมหานักรบผ่านอินเทอร์เน็ต เขาแจกแจงว่า เยาวชนที่กลายเป็นพวกหัวรุนแรงภายในบ้านของตัวเอง เพราะรับข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต จากห้องแชท และจากเฟซบุ๊ก นั้น เป็นพวกที่ติดตามหาร่องรอยได้ลำบากมาก