เอเจนซีส์ - อินเตอร์บิสซิเนส ไทม์ รายงานวันนี้(2)ว่า ทางซาอุดีอาระเบียมีแผนเคลื่อนย้ายร่างของศาสดานบีมูฮัมหมัดออกจากสุสานที่ตั้งอยู่ในปัจจุบันในเมดีนา เพื่อต้องการให้ร่างของท่านถูกเก็บรักษาในสุสานอัล-บากี(Al-Baki)อย่างลับๆ สร้างความกังวลให้ดอกเตอร์ อิรฟาน อัล-อาลาวี (Irfan al-alawi )ผู้อำนวยการมูลนิธิวิจัยมรดกอิสลาม (Islamic Heritage Research Foundation) หรือ เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดนในโลกอิสลาม ที่เปิดโปงโครงการลับนี้แก่สื่ออังกฤษ ดิ อินดีเพนเดนท์ว่า หากแผนโปรเจกต์ลับจำนวน 61 หน้าที่จัดทำโดยนักวิชาการชั้นแนวหน้าในซาอุดีอาระเบียเกิดเป็นความจริง จะสร้างความโกลาหลในโลกมุสลิม เพราะนอกจากที่ทางซาอุดีอาระเบียต้องการเคลื่อนย้ายร่างท่านนบีไปเก็บรักษาที่อื่นแล้ว ยังมีแผนรื้อ “กรีนโดม” รวมถึงบ้านเก่าของท่านศาสดาที่ตั้งใกล้สุสานอีกด้วย
นักวิชาการทางศาสนาชั้นนำในซาอุดีอาระเบียได้เสนอแผนการลับจำนวน 61 หน้าที่เผยแพร่อยู่ภายในกลุ่มคณะผู้ดูแลมัสยิดอัล-นาบาวี (Al-Masjid al-Nabawi ) ในเมดีนา ทั้งนี้ร่างศาสดานบีมูฮัมหมัดยังถูกคงเก็บรักษาไว้ภายใต้ “กรีนโดม” ที่เหล่ามุสลิมจากทั่วทุกมุมโลกร่วมหลายล้านคนเดินทางไปเยี่ยมทุกปี และยังถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิอันดับ 2 ในโลกอิสลามรองลงมาจาก"แท่นหินดำกาบาห์" หรือ กะอ์บะฮ์ ในนครเมกกะ นอกจากนี้ในเอกสารลับ ยังมีคำเสนอแนะให้รื้อ “กรีนโดม” อีกด้วย
ดิ อินดีเพนเดนท์ สื่ออังกฤษรายงานว่า ดอกเตอร์ อิรฟาน อัล-อาลาวี (Irfan al-alawi )ผู้อำนวยการมูลนิธิวิจัยมรดกอิสลาม(Islamic Heritage Research Foundation) เป็นผู้เปิดเผยเอกสารโครงการลับฉบับนี้ พร้อมกล่าวเตือนว่า สิ่งที่ระบุในโครงการนี้อาจก่อให้เกิด "สงครามศาสนาขึ้นในโลกมุสลิม" ซึ่งจะยิ่งเติมเชื้อไฟให้กับความแตกแยกระหว่างกลุ่มชีอะห์และกลุ่มสุหนี่มากขึ้น
เป้าประสงค์ของแผนการนี้เพื่อต้องการไม่ให้เหล่าพี่น้องมุสลิมเดินทางมาแสวงบุญเข้าสักการะสุสานท่านนบี เพราะสายฮาร์ดไลน์ของซาอุฯต่างคิดเห็นว่า “เป็นข้อบกพร่องในการตีความ” โดยหลักนิกายวะฮาบีย์ (Wahhanabi)นิกายหลักของซาอุดีอาระเบียยึดถือว่า “ไม่ให้เคารพสักการะวัตุถุใดรวมถึงสุสาน” เพราะการสักการะศาสดา หรือเข้าเยี่ยมสุสานนั้นถูกห้ามในความเชื่อทางอิสลาม
“ชาวมุสลิมทั่วโลกเดินทางเข้าเยี่ยมบ้านเก่าห้องที่เคยเป็นที่อาศัยของท่านนบีและครอบครัวในอดีต ก่อนจึงมุ่งหน้าไปสู่สุสานซึ่งเก็บรักษาร่างท่านไว้เพื่อภาวนาอธิษฐาน” อัล-อาลาวีให้สัมภาษณ์กับดิ อินดีเพนเดนท์ และเสริมต่อว่า “และในขณะนี้ทางซาอุดีอาระเบียไม่ต้องการให้เหล่านักแสวงบุญเดินทางไปที่นั่น และเข้าเยี่ยมสุสานเพราะพวกเขาเชื่อว่า นี่เป็นการเคารพวัตถุ (idolatry) แต่วิธีเดียวที่จะห้ามเหล่าผู้แสวงบุญได้คือต้องย้ายร่างท่านไปที่อื่นแทน”
ทั้งนี้ทั้งชีอะห์และสุหนี่ต่างล้วนศรัทธาต่อในท่านนบีมูฮัมหมัด โดยอัล-อาลาวียืนยันว่า หากเกิดการหลบหลู่สุสานท่าน จะสร้างความโกรธเคืองให้กับนิกายทั้งสองนี้เป็นอย่างมาก