เอเอฟพี - เรือบรรทุกน้ำมันสัญชาติไทยถูกกลุ่มโจรสลัดบุกปล้นและสูบเอาน้ำมันไปจนหมดเกลี้ยงที่นอกชายฝั่งตะวันออกของมาเลเซีย ซึ่งนับเป็นเหตุการณ์ล่าสุดที่สะท้อนปัญหาโจรสลัดชุกชุมในน่านน้ำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หน่วยงานเฝ้าระวังทางทะเลรายงานวันนี้ (29)
เหตุปล้นเรือดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (28) ใกล้ๆ กับเกาะเตียวมัน (Tioman) ซึ่งเป็นสถานตากอากาศชื่อดังของมาเลเซีย โดยเรือบรรทุกน้ำมันลำนี้กำลังเดินทางจากสิงคโปร์มุ่งหน้ากลับไปยังประเทศไทย ศูนย์รับแจ้งเหตุโจรสลัดในสังกัดองค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (International Maritime Bureau - IMB) ระบุ
ลูกเรือทุกคนถูกจับไปขังไว้ในห้องเครื่องยนต์ ระหว่างที่โจรสูบเอาน้ำมันหล่อลื่น (lubricant oil) ออกจากเรือไปยังเรืออีกลำหนึ่ง
เรือบรรทุกน้ำมันและลูกเรือได้รับอิสรภาพเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (29) โดยไม่มีผู้ใดบาดเจ็บ
ศูนย์รับแจ้งเหตุโจรสลัดซึ่งมีฐานที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ไม่เปิดเผยชื่อเรือและเจ้าของเรือ ซึ่งเป็นแนวทางปฏิบัติของศูนย์แห่งนี้อยู่แล้ว
โนแอล ชูง หัวหน้าศูนย์รับแจ้งเหตุโจรสลัด ระบุว่า เหตุปล้นเรือบรรทุกน้ำมันครั้งนี้เป็นครั้งที่ 10 ที่เกิดขึ้นในน่านน้ำทะเลจีนใต้ตั้งแต่เดือนเมษายน ซึ่งนับว่า “บ่อยผิดปกติ”
“เราขอวิงวอนให้ทุกประเทศในภูมิภาคนี้ร่วมกันสอบสวน และยับยั้งภัยคุกคามที่เกิดขึ้น... เราต้องหยุดมันให้ได้ก่อนที่สถานการณ์จะลุกลามมากไปกว่านี้”
โจรสลัดปล้นเรือสินค้าถือเป็นปัญหาเรื้อรังในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มานานหลายร้อยปี ทว่าการที่รัฐบาลต่างๆ ร่วมกันส่งเรือออกลาดตระเวนเพิ่มความปลอดภภัยก็ได้ช่วยให้การก่อเหตุลดลงมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม สถิติการปล้นเรือกลับพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ในช่วงไม่กี่เดือนมานี้ โดยเป้าหมายส่วนใหญ่ยังคงเป็นเรือสินค้า ทำให้หลายฝ่ายหวั่นเกรงว่าเส้นทางเดินเรือที่สำคัญของโลกนี้อาจกลายเป็นเขตอิทธิพลพวกโจร โดยเฉพาะบริเวณช่องแคบมะละกาซึ่งเป็นเส้นทางการค้ายุทธศาสตร์ที่ผ่านทั้งอินโดนีเซีย มาเลเซีย และสิงคโปร์