เอเอฟพี – รัฐบาลรักษาการของลิเบียซึ่งนำโดยนายกรัฐมนตรี อับดุลเลาะห์ อัล-ทานี ประกาศเมื่อค่ำวานนี้(28)ว่า ได้ยื่นหนังสือลาออกต่อรัฐสภาของประเทศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ภายหลังจากมีการจัดตั้งรัฐบาลสายอิสลามิสต์ขึ้นมาเป็นคู่แข่ง
รัฐบาลชั่วคราวซึ่งมีฐานอยู่ที่ภาคตะวันออกของลิเบียเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับกลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์ที่มีอิทธิพลเข้มแข็งอยู่ในกรุงตริโปลี แถลงว่า “ได้ยื่นหนังสือลาออกต่อรัฐสภาที่ได้รับเลือก” ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองตอบรูก ห่างจากเมืองหลวงไปทางตะวันออกถึง 600 กิโลเมตร
เมื่อวันจันทร์(25) สภาแห่งชาติสามัญ (General National Congress – GNC) ซึ่งถูกแทนที่ด้วยรัฐสภาซึ่งได้รับการเลือกตั้งขึ้นมาเมื่อเดือนมิถุนายน ได้ประกาศแต่งตั้ง โอมาร์ อัล-ฮัสซี นักการเมืองสายอิสลามิสต์ เป็นผู้นำในการจัดตั้ง “รัฐบาลกู้ชาติ” ขึ้น
จีเอ็นซี ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกโปรอิสลามิสต์เสียเป็นส่วนใหญ่ ได้เปิดประชุมที่กรุงตริโปลี ภายหลังได้รับการร้องขอจากกลุ่มอิสลามิสต์ต่างๆ ซึ่งต่อต้านอำนาจของรัฐสภาซึ่งตั้งอยู่ในเมืองตอบรูก
“จีเอ็นซี ไม่ยอมรับว่า อับดุลเลาะห์ อัล-ทานี เป็นหัวหน้ารัฐบาล และจะให้เวลา โอมาร์ อัล-ฮัสซี 1 สัปดาห์เพื่อจัดตั้งรัฐบาลกู้ชาติ” โมอาร์ อาห์มิดัน โฆษกจีเอ็นซี ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนที่กรุงตริโปลีเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา(25)
อิสลามิสต์เรียกร้องให้ จีเอ็นซี เปิดประชุมอีกครั้ง หลังกล่าวหาว่ารัฐสภาในเมืองตอบรูกมีส่วนรู้เห็นกับปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มนักรบอิสลามิสต์ที่กำลังต่อสู้เพื่อยึดสนามบินนานาชาติกรุงตริโปลีจากกลุ่มติดอาวุธชาตินิยม “ซินตัน” เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
พวกเขาอ้างว่าสามารถยึดสนามบินนานาชาติได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะที่สถานีโทรทัศน์ต่างๆ ก็ได้แพร่ภาพอิสลามิสต์บุกเข้าไปอาละวาดเพื่อฉลองชัยที่พวกเขายึดจุดยุทธศาสตร์สำคัญดังกล่าวมาได้
รัฐบาล อัล-ทานี ได้ระบุในคำแถลงลาออกว่า พวกเขาหวังว่ารัฐสภาซึ่งเป็น “สถาบันอันทรงอำนาจชอบธรรมแห่งเดียวในประเทศ” จะสามารถจัดตั้งรัฐบาลใหม่ “ซึ่งเป็นตัวแทนของชาวลิเบียทุกกลุ่ม... ตลอดจนฟื้นคืนความมั่นคงและความเป็นรัฐอันชอบธรรมกลับมาได้”
รัฐบาลที่กำลังจะจากไปยังตำหนิพวกอิสลามิสต์ที่พยายามจัดตั้งรัฐบาลอีกชุดหนึ่งขึ้นมาเป็นคู่แข่ง
“นี่เป็นการกบฏต่อความชอบธรรมของรัฐสภา ซึ่งได้รับการยอมรับจากนานาประเทศ”